วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Pina (2011) :เต้น เต้นไปแม้ในวันที่ไม่มีเธอ



Pina (2011)
หนังเยอรมัน (Germany)
ความยาว : 106 min ประเภท : Documentary | Musical
ผู้กำกับ : Wim Wenders
เขียนบท : Wim Wenders (screenplay)
ดารานำแสดง : Regina Advento, Malou Airaudo และ Ruth Amarante
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 1 รางวัล & ชนะเลิศ 1 รางวัล ดูรายละเอียด

--
ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยเข้าใจศิลปะแขนงที่เรียกว่า "การเต้น" เลยแม้แต่นิด ทั้งไม่เข้าใจว่ามันมีหลักเกณฑ์อย่างไรถึงจะสามารถบอกได้ว่าการเต้นแบบไหน ถูกหลัก ไม่ถูกหลัก สวยหรือไม่สวย จนกระทั่งได้มีโอกาสชมรายกายเรียลลิตี้ประกวดการเต้นทางทีวีของอเมริกาที่ชื่อว่า "So you think you can dance" เป็นรายการที่รับสมัครนักเต้นเข้ามาเต้นใ้ห้คณะกรรมการดู และตัดสินเข้ารอบสูงๆ จนกระทั่งชนะเลิศ

แรกๆ ก็ดูเพราะว่าชอบที่กรรมการจิกกัดผู้เข้ามาประกวด (ฮ่า ) อีกประการคือ ฉันชอบที่รายการนี้เปิดกว้างให้แม้แต่คนที่เต้นไม่เป็นแต่มีใจรักเข้ามาแข่งขันด้วย และพวกเขาเหล่านี้เองที่ทำให้ฉันซึ่งไม่เคยรู้เรื่องการเต้นมาก่อน พอที่จะแยกแยะออกว่าการเต้นเป็น กับการเต้นได้ ต่างกันอย่างไร

เมื่อประมาณเดือนสองเดือนก่อน เพื่อนคอหนังคือคุณ Nanatakara ได้นำหนังเกี่ยวกับการเต้นเรื่อง Pina มารีวิวในบลอค ตอนนั้นฉันรู้สึกเฉยๆ เพราะไม่เคยดูหนังแนวนี้มาก่อน แต่ก็ฉงนใจบ้างเมื่อมีหลายๆคนที่ดูแล้วและแวะมาคอมเม้นท์ว่ามันยอดเยี่ยมมาก ซึ่งฉันเพิ่งเข้าใจเมื่อได้ชมหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

Taste of Cherry (1997) : รสชาติเชอร์รี่ รสชาติชีวิต


Taste of Cherry (1997)
หนังอิหร่าน (Iran-Ta'm e guilass-original title)
ความยาว :95 นาที ประเภท: Drama
ผู้กำกับ : Abbas Kiarostami
เนื้อเรื่อง/เขีียนบท : Abbas Kiarostami
ดารานำแสดง : Homayoun Ershadi, Abdolrahman Bagheri และ Afshin Khorshid Bakhtiari
รางวัลที่ได้รับ :ได้รับการเสนอเข้าชิง 2 รางวัล & ชนะเลิศ 3 รางวัล ดูรายละเอียด

--
Taste of Cherry เป็นภาพยนต์ที่สร้างในปี 1997 โดยผู้กำกับชาวอิหร่าน Abbas Kiarostami เป็นภาพยนต์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ขับรถผ่านชานเมืองเตหะราน เขากำลังหามองหาคนที่สามารถจะจัดการงานศพให้ หลังจากที่เขาเสียชีวิตลง หนังเรื่องนี้แม้ใช้การดำเนินเรื่องอย่างเรียบง่าย แต่ก็ใช้เทคนิคการถ่ายทำที่น่าสนใจ นั่นคือ มีการใช้ Long takes เป็นช่วงๆ ตลอดทั้งเรื่อง และเป็นมุมมองที่ถ่ายออกไปจากรถ ที่ตัวละครมีการสนทนาการระหว่างคนในรถและภายนอก โดยผู้กำกับนั่งอยู่ในรถนั้นด้วย

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Shooter (2007) : คนระห่ำปืนเดือด


Shooter (2007)
เรท R ความยาว : 124 นาที ประเภท: Action | Crime | Mystery
ผู้กำกับ : Antoine Fuqua
เนื้อเรื่อง /เขียนบท : Jonathan Lemkin (เขียนบท), Stephen Hunter (นวนิยาย)
ดารานำแสดง : Mark Wahlberg, Michael Peña และ Rhona Mitra

--
ที่จริงฉันผ่านตาหนังเรื่องนี้บ่อยครั้งทางเคเบิ้ลทีวี แต่เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจดูเลยไม่รู้สึกอะไร แถมไม่เข้าใจเรื่องอีกต่างหาก แต่มาระยะนี้มีเวลานั่งดูแบบจริงๆ จังๆ ต้องบอกเลยว่า เป็นหนังแอ๊คชั่นที่สนุกมากๆ 124 นาทีที่นั่งดู ลุ้นตลอดเวลา ตื่นเต้นและคอยเอาใจช่วยพระเอกตลอดเวลา เรียกว่าประทับใจจนต้องมานั่งเขียนลงในบลอคแห่งนี้

Shooter เป็นเรื่องของพลซุ่มยิงคนหนึ่งชื่อ จ่าบ๊อบ ลี สแว๊กเกอร์ (Mark Wahlberg) ที่มีทักษะในการซุ่มยิง และการเอาตัวรอดชนิดระดับพระกาฬ เขาทำงานรับใช้ราชการด้วยใจจงรักภักดีต่อชาติมาตลอด และการปลูกจิตสำนึกจากพ่อของเขาที่เป็นทหารอันมีผลงานดีเด่นจนได้รับเหรียญกล้าหาญชนิดที่ได้มาด้วยความยากลำบาก ยิ่งทำให้เขาสามารถเสียสละแม้กระทั่งชีวิตได้เพื่อแผ่นดินเกิด

Tuesday, After Christmas (2010) : คนไม่มีใจ อะไรก็รั้งไว้ไม่อยู่


Tuesday, After Christmas (2010)
หนังโรมาเนีย (Romania:Marti, dupa craciun-original title)
ความยาว 99 นาที ประเภท : Drama | Romance
ผู้กำกับ : Radu Muntean
เนื้อเรื่อง/เขียนบท: Razvan Radulescu (screenplay), Radu Muntean (screenplay)
ดารานำแสดง : Dragos Bucur, Maria Popistasu และ Mimi Branescu
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 2 รางวัล & ชนะเลิศ 1 รางวัล ดูรายละเอียด

--
หนังเรื่องนี้เป็นหนังโรมาเนียเรื่องแรกที่ได้ดู ก็เช่นเคยที่ฉันได้รับอภินันทนาการจากเพื่อนคอหนังเดียวกัน โดยส่งมาให้ฉันเป็นหนูทดลองยาก่อน =_-'' อ่ะ เอาก็เอา ลองดู ได้ลองของแปลก และก็ได้เปิดโลกทัศน์ตัวเอง :)

Tuesday, After Christmas ไม่มีอะไรเี่กี่ยวข้องกับคริสมาสต์เลย อ่อ แล้วก็ไม่ต้องหวังดูฉากหวือหวาอะไรมากนักนะ เพราะมันมีไว้หลอกคนเข้ามาดูหนังเรื่องนี้น่ะ  :P หนังเรื่องนี้เป็นของชายคนหนึ่งชื่อ พอล (Mimi Branescu) เขาทำงานเป็นที่ปรึกษาในธนาคารแห่งหนึ่ง ถือว่าเป็นชนชั้นกลางธรรมดาๆ ในโรมาเนีย พอลมีภรรยา คือ อเดียน่า (Mirela Oprisor) และลูกสาวที่กำลังอยู่ในวัยน่ารัก พวกเขาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว มองจากภายนอกดูว่าชีวิตคู่ของพวกเขาปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร แถมยังน่าอิจฉาอีกด้วย

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Dead Snow (2009) : ซอมบี้นาซี ผีหิมะโหด


Dead Snow (2009)
ภาพยนตร์นอร์เวย์ : Død snø (Norway)
ความยาว : 91 min ประเภท : Comedy | Horror
ผู้กำกับ :Tommy Wirkola
บทประพันธ์: Tommy Wirkola, Stig Frode Henriksen
ดารานำแสดง :Jeppe Laursen, Charlotte Frogner และJenny Skavlan

--
ดูหนังดราม่ากันมาเยอะแล้ว เปลี่ยนแนวมาเป็นหนังสนุกๆปนสยองขวัญกันดีกว่า อย่างที่รู้กันดีว่าช่วงนี้ฝนตกอากาศไม่ค่อยเป็นใจให้ออกไปทำอะไรนอกบ้าน สิ่งที่ดีที่สุดคือ พอว่างจากภารกิจการงานก็อยู่บ้านดูหนัง ดังนั้นช่วงนี้ฉันจึงได้มีโอกาสดูหนังเยอะมาก และนี่เป็นหนึ่งในนั้น

--
Dead Snow เป็นเรื่องราวของนักศึกษาแพทย์กลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วยชายหญิงอย่างละกลุ่ม เดินทางไปพักผ่อนในช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์บริเวณเทือกเขาที่มีหิมะหนาเพื่อเล่นสกี ท่ามกลางความขาวโพลนของเืทือกเขาอันมีความงดงามในอีกรูปแบบหนึ่งนั้น มีบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่

Cassandra's Dream (2007) : ทุกความฝันมีราคาของมันเสมอ


Cassandra's Dream (2007)
เรท : PG_13 ความยาว : 108 นาที ประเภท : Crime | Drama | Romance
ผู้กำกับ : Woody Allen
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Woody Allen
ดารานำแสดง : Colin Farrell, Ewan McGregor และ Hayley Atwell

--
หนังเรื่องนี้เ็ป็นผลงานการเขียนบทและกำกับของ วู๊ดดี้ อัลเลนในปี 2007 แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก และอาจจะดูเงียบๆ ในประเทศไทย แต่สำหรับฉันแล้ว ถือว่าเป็นผลงานของผู้กำกับคนนี้ที่ฉันประทับใจชิ้นหนึ่งเลยนะ อาจจะมากกว่า 2 เรื่องล่าสุดที่ได้ดูงานของเขาก็ว่าได้ เพราะหนังเรื่องมีความจริงเกี่ยวความด้านมืดของคนเราเยอะมาก อย่างประโยคที่ว่า "ไม่มีใครอยากเห็นแก่ตัวกันหรอก แต่คนเราก็เห็นแก่ตัวกันหมด" และยังมีอีกเยอะที่ผู้เขียนบทสอดแทรกมาในบทสนทนาของตัวละคร

The Tree Of Life (2011) : แก่นสารของชีวิต


The Tree of Life (2011)
เรท :PG_13 ความยาว : 139 นาที ประเภท: Drama
ผู้กำกับ :Terrence Malick
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Terrence Malick
ดารานำแสดง : Brad Pitt, Sean Penn และ Jessica Chastain
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 3 รางวัล & ชนะเลิศ 4 รางวัล ดูรายละเีอียด

--
หนังเรื่องนี้เขียนบท และกำกับโดย Terrence Malick ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่สร้างงานออกมาได้ติสต์มาก อาจด้วยความเป็นนักปรัชญา นักคิดของเขา ทำให้เมื่อสร้างงานภาพยนต์ก็ได้ระบายมันออกมาที่งานนั้นด้วย ฉันเคยอ่านว่าเขาหายจากวงการไปนาน เข้าใจว่าไปเก็บตัวเพื่อขบคิดถึงสาระของชีวิต พอกลับมาก็ผลิตงานชิ้นนี้ The Tree Of Life ที่รู้ักันว่าสอดแทรกปรัชญาชีวิตไว้เยอะมาก เยอะจนคนดูอาจจะงง และตามไม่ทัน (ฉันเป็นหนึ่งในนั้น >.<)

หนังเรื่องนี้เข้าใจว่าผู้กำกับนับถือศาสนาคริสต์เลยพยายามอธิบายความลึกซึ้งของชีวิตด้วยการนำหลักการในศาสนามาสอดแทรก อ้างอิง แต่ในฐานะที่ฉันนับถือศาสนาพุทธที่มีความรู้เรื่องศาสนาอื่นน้อย จึงไม่อยากตีความอะไรเกรงว่าจะผิดพลาด ดังนั้นทัศนะของฉันจึงอาจจะปนๆ กันทั้งสองศาสนาตามความเข้าใจของฉันเป็นหลัก

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Match Point (2005) : แต้มสำคัญของเกมรัก เกมชีวิต


Match Point (2005)
เรท : R ความยาว : 124 นาที ประเภท : Crime | Drama | Romance
ผู้กำักับ : Woody Allen
เนื้อเรื่อง /บทประพันธ์ : Woody Allen
ดารานำแสดง : Scarlett Johansson, Jonathan Rhys Meyers และ Emily Mortimer
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์,อื่นๆ ได้รับการเสนอเข้าชิง 11 รางวัล & ชนะเลิศ 7 รางวัล ดูรายละเอียด

--
ระหว่างความรัก และตัญหา ,ระหว่างทุกสิ่งที่อยากได้ หรือไม่สูญเสียมันไปทั้งหมด และระหว่างความรู้สึกผิด กับความบริสุทธิ์ใจ ทั้งหมดนี่เปรียบเสมือนแต้มคะแนนสำคัญที่เสียแล้วเสียเลย และมันเป็นแต้มที่จะทำให้รู้ผลแพ้ชนะเสียด้วย ซึ่งตัวเอกต้องเลือกเองว่าอยากให้มันลงเอยแบบไหนนี่คือเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นผลงานกำักับโดยวูดดี้ อัลเลน เขาเคยกล่าวว่า "นี่เป็นหนังที่ดีที่สุดที่ผมเคยทำ ทั้งดารานำแสดง และบททุกอย่างตัว"

Incendies (2010) : รันทดและงดงาม


Incendies (2010)
หนังแคนาดา
เรท : R ความยาว : 130 นาที ประเภท : Drama | Mystery | War
ผู้กำกับ : Denis Villeneuve
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Denis Villeneuve, Wajdi Mouawad
ดารานำนแสดง : Lubna Azabal, Mélissa Désormeaux-Poulin and Maxim Gaudette
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 3 รางวัล & ชนะเลิศ 21 รางวัล ดูรายละเีอียด

--
ฉันได้รับการแบ่งปันจากคุณ Nanatakara เพื่อนคอหนังว่า มีหนังเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่ควรพลาด ตอนนั้นฉันคิดว่า "แหม ขนาดนั้นเชียว" แต่พอได้มีโอกาสนั่งดูหนังเรื่องนี้ก็ต้องอึ้ง ทึ่ง และยอมยกให้เป็นหนังที่ประทับใจที่สุดในปีนี้ไปเลย เพราะว่ามันสุดแสนจะรันทด แต่ทว่างดงามในการนำเสนออย่างที่ไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายได้ ฉันอยากให้คุณลองชมด้วยตัวคุณเอง

หนังเรื่องนี้ถูกกล่าวขวัญกันมากในเรื่องของเรื่องราวที่สะเทือนอารมณ์ Incendies เป็นเรื่องราวของการสืบค้นตามหารากเหง้าของตัวเองอันเป็นกุศโลบายที่ชาญฉลาดของแม่ ที่จะให้ลูกๆ ได้ค้นหาความเป็นมาของตัวเองด้วยตัวเอง ด้วยว่าเรื่องราวของพวกเขาเหล่านั้นซับซ้อนเกินกว่าที่ผู้เป็นแม่จะอธิบายได้ หรือไม่ก็เป็นเพราะเรื่องราวเหล่านั้นเป็นสิ่งที่แม้ตัวผู้เป็นแม่เองก็เกินจะทนรับไหว ..

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Midnight in Paris (2011) : เที่ยงคืนอัศจรรย์เกินฝันในปารีส


Midnight in Paris (2011)
เรท : PG_13 ความยาว : 94 นาที ประเภท : Comedy | Fantasy | Romance
ผู้กำกับ : Woody Allen
เนื้อเรื่อง / เขียนบท : Woody Allen
ดารานำแสดง : Owen Wilson, Rachel McAdams , Kathy Bates,Carla Bruni,Marion Cotillard,Adrien Brody และ Gad Elmaleh
--

ฉันได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ด้วยความอนุเคราะห์ของเพื่อนร่วมบลอค คุณ Nanatakara ที่เห็นว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังดี และฉันเองก็อยากชมแต่หายากมาก รู้สึกว่าไม่เข้าฉายในประเทศไทยด้วย ทำให้เมื่อได้รับแผ่นมาปุ๊ปฉันก็รีบเปิดดูทันที

ก่อนจะพูดถึงหนัง เรื่องนี้ ฉันอยากยกประโยคเด็ดของกวีหญิง เกอร์ทรูด ไสตน์ ที่กล่าวประโยคหนึ่งออกมาว่า "when you get there, there is no "there" there" ซึ่งฉันว่ามันอธิบายถึงภาพยนต์เรื่องนี้ได้ดี ยุคทองที่รุ่งเรืองที่เราอยากไปสัมผัสนั้น เมื่อไปถึงที่นั่นจริงๆแล้ว เราก็จะรู้ว่า ยุคทองที่ว่ามันไม่ได้อยู่ที่นั่นหรอก เพราะสำหรับคนที่นั่นยุคทองของที่เขาคิด มันไม่ใช่ยุคของพวกเขา มันยังมีอีก เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ตามแต่ความพอใจที่ไม่มีขีดจำกัดของคนเรา ... และนี่เป็นสิ่งหนึ่งที่หนังเรื่องนี้พูดถึง

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Intimacy (2001) : ชายแปลกหน้ากับหญิงสาวในวันพุธ


Intimacy (2001)
UNRATED ความยาว : 119 นาที ประเภท : Adult | Drama | Romance
ผู้กำกับ : Patrice Chéreau
เนื้อเรื่อง /เขียนบท :Hanif Kureishi , Anne-Louise Trividic
ดารานำแสดง :Mark Rylance, Kerry Fox และ Susannah Harker
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 6 รางวัล & ชนะเลิศ 6 รางวัล ดูรายละเอียด

--
ฉันได้ดูหนังเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้ว แต่รู้สึกอยากเขียนถึงขึ้นมา เพราะความรู้่สึกที่ดูครั้งแรกๆ เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วนั้นยอมรับว่าดูไม่รู้เรื่อง งงกับเนื้อหาที่หนังนำเสนอ ช่วงนี้มีเวลาหยิบมาดูอีกครั้งก็เข้าใจมากขึ้น Intimacy นั้นเป็นภาพยนต์ที่กำกับโดย Patrice Chéreau โดยเค้าโครงเรื่องจากนวนิยายชื่อเดียวกัน ซึ่งผลงานเขียนของ Hanif Kureishi

How I Ended This Summer (2010) : ฤดูร้อนร้ายกับคนลวงบนเกาะขั้วโลก


How I Ended This Summer (2010)
หนังรัสเซีย (Russia :Kak ya provel etim letom -original title)
ความยาว 130 นาที ประเภท : Drama
ผู้กำกับ : Aleksey Popogrebskiy
เนื้อเรื่อง/เขียนบท: Aleksey Popogrebskiy
ดารานำแสดง : Grigoriy Dobrygin, Sergey Puskepalis และ Igor Chernevich
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 8 รางวัล & ชนะเลิศ 12 รางวัล ดูรายละเีอียด

--
ในความรู้สึกของฉัน หนังเรื่องนี้เหมือนรวมเอาหนังที่เคยดูอย่าง 127 hour, cast away , frozen มารวมเข้าเป็นเรื่องเดียวกัน อย่างนั้นเลย ไม่ใช่ว่าด้วยพล๊อตอย่างเดียวแต่ว่าเป็นความรู้สึกของฉันขณะชมด้วย ที่น่าขันคือ พอดูหนังจบแล้วไปอ่านบรรดาคนมีคอมเม้นท์ใน IMDb มีคนหนึ่งบอกว่าที่จริงหนังน่าจะชื่อเรื่องว่า "How I Cheated (somebody) Last Summer" นะ ซึ่งแม้จะขำๆ แต่ฉันเห็นด้วยนะ

How I Ended This Summer เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มผู้ไร้ซึ่งความสุขในการทำงาน ขณะที่ช่วงฤดูร้อนนี้เขาควรจะได้ใช้เวลาที่เขาอยากทำ กลับต้องมาประจำอยู่ที่สถานีขั้นโลกเหนือเพียงลำพังกับเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่เขาเองก็ไม่ถูกชะตาด้วยนัก ปัญหาคือ ระหว่างเขากับรุ่นพี่คนดังกล่าวกลับมีเรื่องราวที่ไม่เข้าใจกันอย่างรุนแรง เขาจะทำอย่างไรในเมื่อต้องอยู่ร่วมกันกับบุคคลที่เขาคิดว่าเป็นศัตรู จนกว่าจะพ้นช่วงฤดูร้อนนี้ ..


วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Wedding Exchange (2011) : แกล้งแต่ง ไม่แกล้งรัก ฉบับรัสเซีย


Wedding Exchange(2011)
หนังรัสเซีย (Russian Movies: Svadba po obmenu -Original title)
ประเภท : Comedy | Drama
ผู้กำกับ : Dmitry Grachev
เนื้อเรื่อง /เขียนบท : Alena Alova
ดารานำแสดง : Ekaterina Vilkova, Anna Ardova และ Fyodor Bondarchuk
--

ช่วงนี้ฉันขยันเป็นพิเศษในการหาหนังแปลกๆ มาดู ด้วยว่าอยากเปิดใจตัวเอง และเปิดโลกทัศน์การชมภาพยนต์ให้กว้างขึ้น และทำให้ได้เจอกับภาพยนต์รัสเซียเรื่องนี้ ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องละครน้ำเน่าๆ เรื่องหนึ่งนั่นแหล่ะ แต่ว่าเขาทำออกมาได้สวยมาก ยิ่งได้พระเอกนางเอกที่หน้าตาสวยงามมาเล่น ยิ่งทำให้เจริญหูเจริญตา ดูได้สนุกเพลินๆ ดีทีเดียว เหมาะสำหรับดูคลายเครียดเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงนี้

Wedding Exchange เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับภาพยนต์เรื่องนี้โดยตรง โดยเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ นางแบบสาวที่โด่งดังของรัสเซีย (Ekaterina Vilkova) ต้องการแต่งงานกับชายคนสักคน (ในนาม) เพื่อหลีกหนีจากการตามตื้อขอแต่งงานของเจ้าของห้องเสื้อที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และมีอิทธิพลต่ออาชีพการงานของเธอ

Trust (2010) : รักออนไลน์ แม้มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ แต่อันตรายจริงๆ


Trust (2010)
เรท : R ความยาว : 106 นาที ประเภท : Drama | Thriller
ผู้กำกับ : David Schwimmer
บทประพันธ์/เขียนบท : Andy Bellin, Robert Festinger
ดารานำแสดง : Clive Owen, Catherine Keener และ Liana Liberato
รางวัลที่ได้รับ : ชนะเลิศรางวัลประเภท Silver Hugo/Best Actress ในการประกวด Chicaco International Film Festival 2010
-

ยุคสมัยเปลี่ยนไป โลกเปลี่ยนแปลง อินเตอร์เน็ตมีใช้กันได้ง่ายๆ เกือบทุกบ้าน โปรแกรมแชตต่างๆ ทันสมัยมากขึ้น  แต่ขณะเดียวกันกลับมีมิจฉาชีพก็เพิ่มมากขึ้นด้วย จริงอยู่ว่าผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะอาจจะมองออก แต่ก็อย่างที่เรารู้กันดีว่า ส่วนใหญ่ก็ผู้ใหญ่นั่นล่ะที่ส่งเสริมให้เด็กๆ ใช้อินเตอร์เน็ตอาจเพราะคิดว่าดีกว่าออกไปเที่ยวเตร่นอกบ้าน หารู้ไม่ว่า สมัยนี้ให้ปิดล๊อคบ้านให้แน่นหนาดีอย่างไร ภัยอันตรายกลับเข้ามาใกลุ้บุตรหลานง่ายกว่าที่คิด ดังเช่นภาพยนต์เรื่องนี้

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

L'effrontée (1985) : ชาร์ล๊อตกับลูลู่ สายสัมพันธ์รักในวัยเยาว์


L'effrontée (1985)
หนังฝรั่งเศส
ความยาว : 96 นาที ประเภท : Comedy | Drama | Music
ผู้ำกำกับ : Claude Miller
บทประพันธ์/เขียนบท: Claude Miller , Luc Béraud
ดารานำแสดง : Charlotte Gainsbourg, Clothilde Baudon และ Julie Glenn
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 6 รางวัล & ชนะเลิศ 3 รางวัล ดูรายละเอียด

--
ฉันมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้โดยบังเอิญ และก็เพลินดูไปจนจบ L'effrontée เป็นหนังที่สร้างในปี 1985 ที่ถือว่านานมากๆ เรื่องนี้ ชาร์ลอต เกนส์เบิร์กแสดงตั้งแต่ยังเด็กๆอยู่เลย แต่ก็ฉายแววแห่งความสามารถตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพราะได้รางวัลติดมือกลับบ้านจากงานประกวดหลายรางวัลเลยทีเดียว อีกอย่างหนังมีเธอเป็นดาราเด่นอยู่คนเดียว ถ้าฝีมือไม่ถึงก็มีหวังพาหนังทั้งเรื่องลงเหวแน่ๆ

The Fish Child (2009) : รักต้องห้ามและความเป็นมาของเด็กชายใต้น้ำ


The Fish Child (2009)
หนังอาร์เจนติน่า (Argentina:El niño pez -original title)
ความยาว : 96 นาที ประเภท : Drama | Romance | Thriller
ผู้กำกับ : Lucía Puenzo
บทประพันธ์/เขียนบท : Lucía Puenzo , Lucía Puenzo (นวนิยาย)
ดารานำแสดง : Inés Efron, Mariela Vitale และ Pep Munné
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 12 รางวัล & ชนะเลิศ 5 รางวัล ดูรายละเอียด
--
"El Nino Pez หรือ The Fish Child เป็นภาพยนตร์อาร์เจนติน่า ซึ่งกำกับโดย Lucia Puenzo ซึ่งสร้างจากนวนิยายชื่อเรื่องเดียวกันซึ่งผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ก็คือตัวผู้กำกับเอง โดยมีการตีพิมพ์ถึง 2 ครั้งในภาษาสเปน คือในปี 2004 และปี 2008 หลังจากนั้นในปี 2009 ได้รับการเผยแพร่ในประเทศอื่นๆอีกหลายประเทศ โดยมีเนื้อหาเป็นเรื่องราวความรักที่ไม่มีวันสมหวังของหญิงสาววัยรุ่นสองคนที่มาจากฐานะต่างกัน เมื่อับจนไร้สิ้นหนทางออก พวกเธอจึงตัดสินใจกระทำการในสิ่งที่ก่อให้เกิดอาชญากรรมอันสุดแสนน่าสลดใจ"


วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Summer Strom (2004) : พายุฤดูร้อนไม่ร้ายเท่าพายุอารมณ์รัก


Summer Storm (2004)
หนังเยอรมัน (German: Sommersturm -original title)
เรท : R ความยาว : 98 นาที ประเภท : Comedy | Drama | Romance
ผู้กำกับ : Marco Kreuzpaintner
บทประพันธ์/เขียนบท:Thomas Bahmann , Marco Kreuzpaintner
ดารานำแสดง : Robert Stadlober, Kostja Ullmann และ Miriam Morgenstern
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 1 รางวัล & ชนะเลิศ 4 รางวัล ดูรายละเอียด
---
พายุตามธรรมชาติจะส่อเค้าให้เราเห็นก่อนเสมอ ซึ่งต่างกับพายุชีวิตโดยสิ้นเชิง เพราะเวลาที่มาพัดเข้ามา มันไม่เคยเตือนเราก่อนเลย หนังเยอรมันเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับพายุชีวิตที่พัดมากับพายุฤดูร้อนสู่แคมป์นักกีฬาเรือพาย อันส่งผลเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของสองชาย หนึ่งหญิงวัยรุ่นไปอย่างไม่มีวันเหมือนเดิม

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Jet Lag (2002) : ตกเครื่องดีนัก รักเสียเลย


Jet Lag (2002)
หนังฝรั่งเศส (French:Décalage horaire -original title)
เรท : R ความยาว : 91 นาที ประเภท : Comedy|Romance
ผู้กำกับ : Danièle Thompson
บทประพันธ์/เขียนบท:Christopher Thompson, Danièle Thompson
ดารานำแสดง :Juliette Binoche, Jean Reno และ Sergi López

--
“ฉันเคยถูกตี ไม่ใช่เพราะแอบโดดเรียนไปดูหนังหรอกนะ แต่เพราะว่าหนังที่แอบไปดูน่ะ เป็นหนังอเมริกัน เพราะพ่อแม่ของฉันท่านรับไม่ได้ พ่อบอกว่ามันโง่เง่า ส่วนแม่บอกว่า มันไม่ใช่ความจริงของชีวิต.. แน่ล่ะ คนจนกลับรวย คนรวยมีปัญหา คนต่างด้าวได้บัตร สงครามยุติ คนตายฟื้นได้ และโสเภณีแต่งงานกับเศรษฐี เฮ้อ มันน่าจะเป็นจริงนะ แอนดี้ วอร์ฮอล( คนอเมริกัน )เคยพูดไว้ว่า “ทุกคนควรได้มีชื่อเสียงสัก 15 นาทีในชีวิต” แต่ฉันรู้สึกเสมอว่า ฉันควรมีสิทธิ์ดังทั้งวันมากกว่า ทั้งวันซึ่งชีวิตฉันจะเหมือนหนังอเมริกัน... “ นี่เป็นคำเกริ่นนำจากนางเอกของหนังเรื่องนี้ อันจะนำเราไปสู่เรื่องราวความรักที่อัศจรรย์ราวกับหนังอเมริกันของเธอ

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Valley Of The Wolves- Palestine (2011) : วีรบุรุษบนดินแดนปาเลสไตน์


Valley Of The Wolves- Palestine (2011)
หนังตุรกี (Turky : Kurtlar Vadisi Filistin -Original title)
ความยาว : 105 นาที ประเภท Action | Adventure
ผู้กำักับ : Zübeyr Sasmaz
บทประพันธ์/เขียนบท : Raci Sasmaz,Bahadir Özdener
ดารานำแสดง : Necati Sasmaz, Erdal Besikçioglu และ Nur Aysan
--
The Valley of the Wolves เป็นหนังชุดไตรภาคที่สร้างฉายทางทีวีของตุรกี ประกอบด้วยValley of the Wolves: Iraq (2006), Valley of the Wolves: Gladio (2008) และ Valley of the Wolves: Palestine (2010) โดยเป็นหนังแอคชั่นที่สร้างอิงเรื่องจริง ในเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่เรือบรรเทาทุกข์ไปยังฉนวนกาซาถูกปิดล้อมบุกยึดโดยทหารอิสราเอล และเหตุการณ์ยิงนักเคลื่อนไหวชาวเติร์กตาย 9 คน และหนังชุดนี้ยังทำให้เกิดความบาดหมางทางการทูตระหว่างตุรกีกับอิสราเอล เพราะมีฉากที่ละเอียดอ่อนต่อความสัมพันธ์อยู่ในเรื่องด้วย

The killer inside me (2010) : สุภาพบุรษมัจจุราช


The killer inside me (2010)
เรท : R ความยาว : 109 นาที ประเภท : Crime | Drama | Thriller
ผู้กำกับ : Michael Winterbottom
บทประพันธ์/เขียนบท : Jim Thompson (นวนิยาย), John Curran (บท)
ดารานำแสดง :Casey Affleck,Kate Hudson และ Jessica Alba
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 2 รางวัล & ชนะเลิศ 1 รางวัล ดูรายละเอียด
--
the killer inside me เป็นนวนิยายที่ประพันธ์โดย Jim Thompson นวนิยายเรื่องนี้ของเขาถูกตีพิมพ์ในปี 1952 ซึ่งเป็นผลงานเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขา และมันยังถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ถึงสองครั้ง ครั้งแรกในปี 1976 กำกับโดย Burt Kennedy และในปี 2010 ซึ่งเป็นผลงานกำกับโดย Michael Winterbottom สำหรับเนื้อหาของนวนิยายเรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในประเด็นการใช้ความรุนแรงกับสตรี

วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Pride and Glory (2008) : ตำรวจดีๆยังมีเหลืออยู่


Pride and Glory (2008)
เรท R ความยาว : 130 นาที ประเภท : Crime | Drama | Thriller
ผู้กำกับ : Govin O'Conner
บทประพันธ์/เขียนบท : Joe Carnahan,Govin O'Conner
ดารานำแสดง : Edward Norton,Colin Farrell และ Noah Emmerich
--
ความสัตย์จริง , เกียรติยศศักดิ์ศรี , ความจงรักภักดี และครอบครัว ถ้าเลือกได้ คุณจะยอมเสียสละสิ่งไหน? ภาพยนต์เรื่องนี้เป็นเรื่องของสมาชิกในครอบครัวข้าราชการครอบครัวหนึ่งที่ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตอันจำเป็นจะต้องเลือกที่จะเสียสละิสิ่งใดสิ่งหนึ่งใน 4 ข้อของคำถามข้างต้น  ที่สำคัญมันเป็นความจริงของพวกเขาเพิ่งถูกค้นพบ และหากว่่ามันถูกเปิดเผยขึ้นจะสั่นสะเืืทือนเกียรติยศศักดิ์ศรีที่พวกเขายึดมั่นมาตลอดอย่างแน่นอน...

Twentynine Palms (2003) : บ่วงรักอารมณ์ระทึก


Twentynine Palms (2003)
หนังฝรั่งเศส (France)
ความยาว : 119 นาที ประเภท : Drama,Horror
ผู้กำกับ : Bruno Dumont
บทประพันธ์/เขียนบท : Bruno Dumont
ดารานำแสดง : Yekaterina Golubeva และ David Wissak
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 2 รางวัล & ชนะเลิศ 1 รางวัล ดูรายละเอียด
---

ต้องสารภาพก่อนว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังใช้เวลาจดๆจ้องนานพอควรทีเดียวเลยกว่าจะได้ซื้อมาดู ด้วยรู้ว่ามีฉากอันลือลั่นอยู่เยอะ เหตุผลอีกอย่างคือ กลัวเสียภาพพจน์ ฮ่า ฮ่า แต่ความอยากรู้อยากเห็นมีพลังเหนือกว่าความอาย ก็เลยตัดสินใจซื้อมาดู และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะหนังให้อะไรมากกว่าฉากอย่างว่านั่นโดยเฉพาะเรื่องราวของอันลึกลับซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักต่างชาติต่างภาษา ซึ่งพวกเขาได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน จากทริปเดินทางในเมืองอันแห้งแล้งที่ชื่อว่า Twentynine Palms

Hard Candy (2005) : อันตรายแสนหวานจากโลกไซเบอร์


Hard Candy (2005)
R 104 min - Drama | Thriller
ผู้กำกับ:David Slade
ดารานำแสดง :Patrick Wilson, Ellen Page และ Sandra Oh
รางวัลที่ได้รับ และเข้าชิง : 5 wins & 6 nominations ดูรายละเอียด

--
ฉันได้ดูหนังเรื่องนี้นานแล้ว แต่ว่าเอามาเขียนอีกครั้งเพราะว่าตอนนี้กำลังมีหนังแนวๆ ภัยจากอินเตอร์เน็ตแบบนี้ คือหนังเรื่อง Trust_ กำลังเข้าฉายอยู่ เลยนึกถึงหนังเรื่องนี้ขึ้นมา เกรงว่าจะลืมเลือนไปเนื่องจากระยะเวลาที่ได้ดูก็นานโขแล้ว หนังพูดถึงภัยในโลกไซเบอร์ที่บางครั้งมิตรภาพอาจนำมาซึ่งภัยร้ายอย่างคิดไม่ถึง

Hard Candy เป็นเรื่องราวของช่างภาพหนุ่มหล่อที่ชอบแชตคุยกับเด็กสาวๆ และชักชวนมามีความสัมพันธ์ด้วย โดยในเรื่องช่างภาพหนุ่มเจฟ รับบทโดย Patrick Wilson เขานิยมชมชอบในการแชตคุยกับสาวๆ ทางอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะเด็กสาวๆอายุน้อยๆ และล่าสุดเขาได้แชตกับฮาร์เล่ย์ (Ellen Page) เด็กสาวที่บอกว่าเธออายุเพียง 12 เท่านั้น

Last Tango In Paris (1972) : รักลวงในปารีส


Last Tango In Paris (1972)
หนังฝรั่งเศส ( France:Ultimo tango a Parigi-Original Title)
เรท : NC-17 ความยาว : 136 นาที ประเภท : Drama|Romance
ผู้กำกับ : Bernardo Bertolucci
บทประพันธ์/เขียนบท: Bernardo Bertolucci
ดารานำแสดง : Marlon Brando,Maria Schneider และ Maria Michi
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 5 รางวัล & ชนะเลิศ 5 รางวัล ดูรายละเอียด
---

หลังจากได้ยินกิตติศัพท์ของหนังเรื่องนี้มานาน ในที่สุดฉันก็หามาดูจนได้ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยฉากวาบหวิวซะเยอะ (โดยไม่จำเป็น) และการดำเนินเรื่องเองนั้นก็ค่อนข้างเข้าใจยาก แต่ถึงกระนั้นก็ยังถือว่าเป็นหนังในตำนานเรื่องหนึ่งที่คนรักหนังควรมีโอกาสได้ชมสักครั้งหนึ่ง แล้วค่อยตัดสินใจว่าเป็นอย่างไร

Last Tango In Paris เป็นเรื่องราวของหญิงสาวแรกรุ่นชาวปารีเซียงที่สดใสร่าเริงชื่อ ฌาน(Maria Schneider)เธอเป็นหญิงสาวที่มีความฝันเ่ช่นเดียวกับหญิงสาวคนอื่นๆ อยากมีชีวิตที่ดี ได้แต่งงานกับคนรักในชุดอันสวยหรู ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่ขณะเดียวกันก็ยังอยู่ในวัยแห่งความอยากรู้อยากลอง

A Single Man (2009): ชายโสดผู้โดดเดี่ยว


A Single Man (2009)
เรท : R ประเภท : Drama
ผู้กำกับ : Tom Ford
บทประพันธ์/เขียนบท : Tom Ford,Davi Scearce
ดารานำแสดง : Colin Firth,Julianne Moore และ Matthew Goode
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 27 รางวัล,ชนะเลิศ 21 รางวัล ดูรายละเอียด
--
หนังเรื่องนี้สร้างจากนวนิยายเรื่อง A Single Man ประพันธ์โดย Christopher Isherwood  กำกับภาพยนต์โดยนักออกแบบแฟชั่นผู้มีเสียง Tom Ford ซึ่งกำกับภาพยนต์เป็นครั้งแรก รวมถึงเป็นนายทุนสำหรับงานชิ้นนี้ด้วย จุดเด่นอีกประการคือ แฟชั่นในภาพยนต์เรื่องนี้ซึ่งเป็นแฟชั่นในยุคปี 1960 นั้น เป็นเซ็ตเดียวกันกับที่นำมาใช้ในซีรี่ส์ทีวีเรื่อง Mad Men

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Worlds Apart (2008) : ณ จุดที่ความศรัทธากับความรักไปด้วยกันไม่ได้


Worlds Apart (2008)
หนังเดนมาร์ก (Denmark:To verdener-Original Title)
ความยาว : 116 นาที ประเภท : Drama
ผู้กำกับ : Niels Arden Oplev
บทประพันธ์/เขียนบท : Niel Arden Oplev,Steen Bille
ดารานำแสดง : Rosalinde Mynster,Johan Philip Asbæk และ Jens Jørn Spottag
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 12 รางวัล & ชนะเลิศ 5 รางวัล ดูรายละเอียด

--
หนังเดนมาร์กเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของ พยานพระยะโฮวา (Jehovah's Witness )สาววัย 17 ที่ต่อสู้กับความศรัทธาของเธอเอง และความรักความลับอันแสนโรแมนติคกับชายหนุ่มผู้ไม่เลื่อมใสศรัทธา

กำกับโดย Niels Arden Oplev ผู้กำกับซึ่งเป็นรู้จักกันทั่วโลกจากผลงาน The Girl with dragon tattoo โดยหนังได้รับเลือกให้เข้าฉายในเทศกาล Berlin International Film Festival 2008



วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Picture Bride (1994) : เจ้าสาวทางไปรษณีย์


Picture Bride (1994)
หนังญี่ปุ่น
เรท :PG-13 ความยาว : 95 นาที ประเภท : Drama|Romance
ผู้กำกับ : Kaya Hatta
บทประพันธ์/เขียนบท : Kaya Hatta
ดารานำแสดง : Youki Kudoh,Akira Takayama และ Cary-Hiroyuki Tagawa
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 6 รางวัล & ชนะเลิศ 2 รางวัล ดูรายละเอียด
--

ระหว่างปี 1907 และ 1924 มีเด็กสาวจากญี่ปุ่น,โอกินาวา,เกาหลี จำนวนกว่า 20,000 คน เดินทางมาฮาวาย เพื่อมาแต่งงานกับผู้ชายที่รู้จักกันเพียงแต่ในจดหมาย และรูปถ่าย พวกเธอจึงถูกเรียกว่า "Picture Brides"  หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของพวกเธอและสิ่งที่ต้องพบเจอบนดินแดนที่แปลกใหม่แห่งนี้

Lila Says (2004) : ลิล่ากับเรื่องที่เธอเล่า


Lila Says (2004)
หนังฝรั่งเศส (French :Lila dit ça - original title)
เรท : R ความยาว : 89 นาที ประเภท : Crime | Drama |Romance
ผู้กำกับ : Ziad Doueiri
บทประพันธ์/เขียนบท : (Ziad Doueiri,Mark Lawrence
ดารานำแสดง : Vahina Giocante,Moa Khouas และ Karim Ben Haddou
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 4 รางวัล & ชนะเลิศ 4 รางวัล ดูรายละเอียด


หนังฝรั่งเศสเรื่องนี้สร้างจากนวนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ "Chimo" ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1996 ซึ่งเป็นเรื่องที่เขียนถึงสาวน้อยที่สวยสดใส มีเสน่ห์ ผู้ย้ายมาเพื่อนบ้าน และได้บอกเล่าเรื่องที่เปิดโลกของเด็กหนุ่มขี้อายคนหนึ่งให้ก้าวออกมาสู่การค้นพบสิ่งใหม่


วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Apocalypto (2006) : ปิดตำนานอารยชน


Apocalypto (2006) :
เรท : R ความยาว : 139 นาที ประเภท : Action | Adventure | Drama
ผู้กำกับ : Mel Gibson
บทประพันธ์/เขียนบท  : Mel Gibson,Farhad Safinia
ดารานำแสดง : Gerardo Taracena,Raoul Trujillo และ Dalia Hernandez
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 13 รางวัล & ชนะเลิศ 7 รางวัล ดูรายละเอียด
--
"อารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้ถูกพิชิตจากศัตรูภายนอก แต่มันถูกทำลายจากภายในนั่นเอง"นี่เป็นภาพยนต์ที่จะอธิบายประโยคข้างต้นได้เป็นอย่างดี ในดินแดนอันแสนลึกลับของชนเผ่ามายาที่เจริญขึ้นขั้นสูงสุด แต่ต้องมาล้มสลายจากภายในด้วยการใช้อำนาจเกินขอบเขตของผู้นำ...


The King's Speech (2010) : ประกาศก้องจอมราชา


The Kings 's Speech (2010)
เรท : R ความยาว : 118 นาที  ประเภท : ฺBiography|Drama|History
ผู้กำกับ : Tom Hooper
บทประพันธ์/เขียนบท : DavidSeidler
ดารานำแสดง : Colin Firth,Geoffery Rush และ Helena Bonham Carter
รางวัลที่ได้รับ : ชนะเลิศ 4 รางวัลออสการ์ ,อื่นๆ ได้รับการเสนอเข้าชิง 94 รางวัล ชนะเลิศ 64 รางวัล ดูรายละเอียด
--
ฉันได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่หนังออกใหม่ๆ ซึ่งก็นานพอสมควรแล้ว แต่ที่เพิ่งจะมาเขียนก็เพราะว่าอยากให้พ้นจากกระแสของการพูดถึงไปสักหน่อย ตอนนั้นฉันติดตามกระแสงานประกวดรางวัลออสการ์อยู่ ทันทีที่รู้ว่าเรื่องนี้มาแรงมาก และในสุดท้ายก็คว้ารางวัลดารานำชายไปในที่สุด ฉันคิดว่าหนังจะต้องซีเรียส หรือไม่ก็ดราม่ากันสุดๆ คงจะน่าเบื่อ แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นหนังที่ทำได้น่ารักอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

Life Is Beautiful (1997) : ยิ้มไว้...โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง

Life Is Beautiful (1997)
หนังอิตาเลี่ยน (Italy: La vita e bella-Original Title)
เรท PG-13  ความยาว : 116 นาที ประเภท: Comedy |Drama |Romance
ผู้กำกับ : Roberto Benigni
บทประพันธ์/เขียนบท : Vincenzo Cerami,Roberto Benigni
ดารานำแสดง : Roberto Benigni,Nicoletta Braschi และ Giorgio Cantarini
รางวัลที่ได้รับ : ชนะ 3 รางวัลออสการ์,อื่นๆ ได้รับการเสนอเข้าชิง 30 รางวัล ชนะ 52 รางวัล ดูรายละเอียด
---

ฉันได้ชมหนังเรื่องนี้มานานแล้ว และหยิบขึ้นมาดูอีกหลายๆ รอบในทุกๆ รอบก็จะได้พลังใจทุกๆครั้ง จึงคิดว่าควรจะได้เขียนไว้ในบลอคเพื่อที่จะบันทึกเก็บไว้และเพื่อแบ่งปันให้ กับผู้ที่ยังไม่มีโอกาสได้ชม หรือชมนานแล้วและลืมมันไป ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต จะได้มีกำลังใจที่จะเอาชนะมัน หรืออย่างน้อยก็สามารถอยู่กับมันได้อย่างไม่ต้องทุกข์มากโดยใช้แนวคิดอย่าง ที่ตัวเอกในหนังเรื่องนี้ใช้ คือ "ยิ้มไว้ โลกนี้ไม่สิ้นหวัง"

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

The Circle (2000) : วัฏจักร

The Circle (2000)
หนังอิหร่าน (Iran : Dayereh-Original Title)
ผู้กำกับ : Jafar Panahi
บทประพันธ์/เขียนบท : Kambuzia Partovi,Jafar Panahi
ดารานำแสดง : Maryiam Palvin Almani,Nargess Mamizadeh และ Mojgan Faramazi
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 4 รางวัล,ชนะเลิศ 11 รางวัล
--

สังคมอิหร่านนั้นถือเป็นสังคมที่มีการแยกเพศอย่างชัดเจน โดยหลักการแล้วพื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่ของผู้ชาย พื้นที่ในบ้านเป็นพื้นที่ของผู้หญิง ผู้หญิงจะต้องปกปิดใบหน้า ผม และเรือนร่างของเธอเมื่อปรากฏกายในที่สาธารณะ ,เธอไม่สามารถเดินทางไกลเพียงลำพังได้หากปราศจากมีสามีหรือผู้ปกครองยินยอม นอกจากนั้นยังมีข้อปฏิบัติปลีกย่อยอีกมากมายที่ชี้ให้เราเห็นถึงสถานะของผู้หญิงอิหร่าน ว่าเป็นพลเมืองชั้นสองของประเทศ ไม่มีิสิทธิ์มีเสีียงใดๆ อีกทั้งมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตอีกมาก หนังเรื่องนี้ยิ่งชี้ให้เราได้เห็นความจริงอันแสนเจ็บปวดที่ว่า "สำหรับผู้หญิงอิหร่านแล้วอาชญากรรมเดียวของเธอ คือ การที่เกิดมาเป็นผู้หญิง"

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Hanna (2011) : สาวน้อยร้อยกระบวนท่า

Hanna (2011)
PG_13 111 min - Action | Crime | Mystery
ผู้กำกับ :Joe Wright
ดารานำแสดง : Saoirse Ronan, Cate Blanchett และ Eric Bana
--
ในที่สุดก็ได้ดูหนังเรื่องนี้เสียที หลังจากที่จดๆ จ้องๆ อยู่นาน ด้วยว่าชอบสาวน้อยที่แสดงเป็นนางเอกมานาน และติดตามผลงานของเธอมาทุกเรื่อง ยิ่งนานวัน ฝีมือยิ่งโดดเด่น ถือเป็นดาราดาวรุ่งอนาคตไกลคนหนึ่งเลยนะเนี่ย โดยเฉพาะในหนังเรื่องนี้ที่เธอรับบทบาทเป็น Hanna สาวน้อยนักฆ่าที่ฝีมือเก่งกาจเกินวัย

Leon the Professional (1994) : นักฆ่าและเด็กน่ารัก

Leon: The Professional (1994)
R 110 min - Crime | Drama | Thriller
ผู้กำักับ :Luc Besson
เขียนบท:Luc Besson
ดารานำแสดง : Jean Reno, Gary Oldman และ Natalie Portman
--
หลัง จากได้ดูหนังแนวนักฆ่าเด็กอย่าง Hanna จบแล้วก็นึกถึงหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นหนังประเภทเดียวกัน แต่คลาสสิกกว่าเพราะสร้างมาตั้ง 17 ปีแล้ว ตั้งแต่หนูแนท นาตาลียังเด็กอยู่ ได้ข่าวว่าได้รับการกล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางถึงฝีมือและแววของเธอว่าออก มาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว ฉันเพิ่งจะมีโอกาสได้ดูก็วันนี้เอง

Leon the professional เป็นเรื่องของนักฆ่าที่ชื่อลีออง (Jean Reno) ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์เดียวกันกับครอบครัวของเด็กหญิงมาทิลด้าวัย 12 ปี (Natalie Portman) มาิทิลด้าอาศัยอยู่กับบิดา แม่เลี้ยง พี่สาว และน้องชายเล็กๆในห้องตรงกันข้ามกับลีออง ด้วยครอบครัวที่มีปัญหาของเด็กหญิงทำให้เธอมานั่งเล่นตรงทางเดินบ่อยๆ เมื่อได้ทักทายกันบ่อยๆ จึงได้คุ้นเคยกับลีอองพอสมควร

Human Nature (2001) : มนุษย์ก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ

Human Nature (2001)
R 96 min - Comedy | Drama
ผู้กำักับ:Michel Gondry
เีขียนบท :Charlie Kaufman
ดารานำแสดง :Tim Robbins, Patricia Arquette และ Rhys Ifans
รางวัลที่ได้รับ :
1.ชนะเลิศรางวัลHigh Hopes Awardหมวดproducerในงาน Munich Film Festival ปี 2002
2.ชนะเลิศรางวัล NBR Award หมวด Best Screenplay งานประกวด National Board of Review, USA

--
ฉัน ได้ดูหนังเรื่องนี้โดยไม่ตั้งใจ ที่ดูเพราะแปลกใจว่าไฉนหนังเรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้ และคำกล่าวถึง แม้ว่าจะเป็นหนังที่กำกับโดยผู้กำกับที่ได้รับการยอมรับระดับหนึ่งก็ตาม รวมถึงคะแนนที่ IMDb ให้ก็ต่ำทีเดียว แต่เมื่อได้ดูจบก็ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งว่า "หนังดี ไม่จำเป็นต้องได้คะแนนเยอะเสมอไป"

Human Nature เป็นหนังของผู้กำกับฝีมือดีและได้คนเขียนบทเทพมาร่วมเสริมทีมอีก ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังเสียดสีสังคม และตลกร้าย ที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง

Beyond Rangoon (1995) : วิถีพม่า วิถีเธอ อองซาน ซูจี


--
Beyond Rangoon (1995)
R 100 min - Action | Drama
ผู้กำกับ :John Boorman
นักเขียน:Alex Lasker, Bill Rubenstein
ดารานำแสดง : Patricia Arquette, U Aung Ko และ Frances McDormand
รางวัลที่ได้รับ:
1.ชนะเลิศรางวัลPFS Award จากงาน Political Film Society, USA ปี 1996

--
ฉันเลือกหยิบหนังเรื่องนี้มาดูเพราะกำลังรอชมหนังใหม่เรื่อง "The Lady" อันเป็นเรื่องราวชีวประวัติของ อองซานซูจี ช่วงนี้เลยต้องหาหนังที่เกี่ยวข้องกันมาดูฆ่าเวลาไปก่อน .. และโดยไม่ตั้งใจที่ได้ชมการแสดงติดๆ กันสองเรื่องซ้อนของดาราสาวแพทริเซีย อาร์เก็ต (จากซีรี่ส์ Medium นั่นเอง)

ภาพยนตร์เรื่อง Beyond Rangoon เป็นเรื่องราวของแพทย์หญิงชาวอเมริกันชื่อ ลอร่า โบว์แมน ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศพม่าโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงที่เธอเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศนี้กับพี่สาว เพื่อเียียวยาจิตใจอันเกิดจากประสบการณ์ที่เลวร้ายที่ทำให้ต้องสูญเสียสามีและลูกชายจากน้ำมือของฆาตกรโหด

The Mirror (1997) : เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้วนะหนูน้อย


The Mirror (1997)
หนังอิหร่าน ( Iran : Ayneh -Original Title)
ความยาว 95 นาที ประเภท : Drama
ผู้กำกับ : Jafar Panahi
เขียนบท : Jafar Panahi
ดาราำนำแสดง : Mina Mohamad Khani,Aida Mohamandkhani และ Kazem Mojdehi
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 1 รางวัล & ชนะเลิศ 1 รางวัล

--
ฉันได้ Box set หนังเรื่องนี้มาจากกะบะ 3 แผ่น 100 ในร้านขายแผ่นหนังแห่งหนึ่งในห้างใกล้บ้าน ต้องบอกว่าร้านนี้คือสวรรค์ของคนรักการสะสมแผ่นแท้เลยก็ว่าได้ เพราะคุณจะได้หนังดีๆ หนังรางวัล มาครอบครองในราคาถูกมาก และมีกล่องสวยงามอีกต่างหาก เมื่อกลับมาถึงบ้านก็รีบเปิดดูทันทีด้วยใจที่อยากรู้ว่ามันมีเนื้อหาเป็นอย่างไร

หนังตั้งชื่อเรื่องว่า The Mirror ซึ่งคงหมายถึงมุมมองจากล้องที่ตามถ่ายตัวเอก คือเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งซึ่งพยายามเดินทางกลับบ้านด้วยตัวเอง  หนังเปิดฉากแรกมาด้วยภาพโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในอิหร่านเวลาเลิกเรียน เด็กหญิงในชุดนักเรียนมีผ้าคลุมวิ่งกรูกันข้ามถนน ทุกคนมีพ่อแม่มารับกลับบ้าน แต่เด็กหญิงมินา ผู้ซึ่งแขนข้างหนึ่งมีเผือกผูกอยู่นั่งรอแม่กลับมาัรับกลับบ้าน รอแล้วรอเล่า แม่ก็ไม่มา วิ่งไปโทรศัพท์ก็แล้ว ไปถามผู้ใหญ่คนโน้นคนนี้ว่า หนูจะทำอย่างไรดีคะ? ผู้ใหญ่เหล่านั้นก็ไม่มีใครสนใจ .. มินาจึงตัดสินใจกลับบ้านด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่า หลงทาง และผู้ใหญ่ทุกคนรอบตัวเธอก็ล้วนแล้วแต่มีปัญหาของตัวเอง จึงไม่มีใครสนใจว่ามีเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งกำำลังพลัดหลงจากแม่ และกำลังหลงทาง

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Marie Antoinette (2006) : มาเรีย อองตัวเน็ต ราชินีวัยรุ่น


Marie Antoinette(2006)
เรต : PG-13 ความยาว : 123 นาที  ประเภท : Biography | Drama | History
ผู้กำกับ : Sofia Coppola
บทประพันธ์/เขียนบท : Sofia Coppola
ดาราำนำแสดง : Kirsten Dust,Jason Schwartzman,Rose Byrne และ Rip Torn
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ 9 รางวัล & ชนะเลิศ 8 รางวัล ดูรายละเอีย
---
เธอแต่งงานตอนอายุ 15  อายุ 19 เธอได้ขึ้นเป็นราชินี  พออายุ 20 เธอกลายเป็นตำนาน นี่คือเรื่องราวของเธอ มาเรีย อองทัวเน็ืท ราชินีที่ใช้ชีิวิตราวกับดาราร๊อค โดยสะท้อนภาพผ่านมุมมองของผู้กำกับหญิงสมัยใหม่ โซเฟีย คอปโปล่า


Marie Antoinette เริ่มต้นเรื่องด้วยฉากที่สาวน้อยในราชสำนัก มาเรีย (Kirsten Dunst) บอกลามารดาเพื่อเดินทางจากออสเตรียมาที่ฝรั่งเศสเพื่อมาพบกับคู่หมั้น หลุยส์ ออกัส และแต่งงานเพื่อเป็นราชินี โดยธรรมเนียปฏิบัติเมื่อเข้าถึงดินแดนฝรั่งศส เธอจำต้องละทิ้งทุกอย่างจากบ้านเมืองเดิม ไม่ว่าจะเป็นข้าทาสบริวาร,หมาที่อุ้มมาด้วย,แม้กระทั่งเสื้อผ้า ก็ต้องถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าของฝรั่งเศส เธอกลายเป็นตัวคนเดียวในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย

Case 39 (2009) : อย่าให้เธอรู้ว่าคุณกลัว


Case 39 (2009)
เรต :R ความยาว :109 นาที ประเภท :Horror | Mystery | Thriller
ผู้กำกับ :Christian Alvart

บทประพันธ์ : Ray Wright
ดารานำแสดง : Renee Zellweger,Ian McShane,Bradley Cooper และ Jodelle Ferland

--
ฉัน มีแผ่นหนังเรื่องนี้อยู่นานแล้ว แต่ไม่กล้าดู หรือจะเรียกว่า กลัวที่จะดูก็ได้ เพราะหลายๆ คนบอกว่าหนังเรื่องนี้น่ากลัวมากๆ นี่ขนาดยังไม่ได้ดูด้วยตัวเอง ยังยังทำให้เกิดความกลัวเสียแล้ว :P ..

Case 39 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักสังคมสงเคราะห์หญิง เอมิลี่ (Renée Zellweger) เธอทำงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาครอบครัว เหตุการณ์เป็นไปอย่างปกติ จนวันหนึ่งเธอได้เข้าไปทำคดีที่ 39 ซึ่งเป็นคดีของเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ชื่อ ลิลี่ (Jodelle Ferland) เมื่อเอมิลี่ไปพบกับผู้ปกครองที่บ้านก็พบว่าพ่อกับแม่ของลิลี่มีท่าทางผิด ปรกติ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่มีร่องรอยว่าผู้ปกครองทำร้ายเด็ก จนคืนหนึ่งลิลี่โทรมาหาเอมิลี่เพื่อขอความช่วยเหลือ เธอร่วมมือกับตำรวจที่เป็นเพื่อนสนิท ชื่อ ไมค์ (Ian McShane)เข้าไปช่วยเด็กหญิงได้ทัน ขณะที่พ่อแม่กำลังจับลิลี่ใส่เตาอบ (สงสัยคิดว่าลูกสาวเป็นขนมปัง :P)

Rio (2011) : เจ้านกแก้วฟ้าผจญภัย














Rio (2011)
เรท : G เวลาฉาย : 96 นาที ประเภทหนัง :Animation | Adventure | Comedy
ผู้กำกับ : Carlos Saldanha
บทประพันธ์/เขียนบท : Carlos Saldanha,Earl richey Jones
ดารานำแสดง(เสียง) : Jesse Eisenberg,Anne Hathaway และ George Lopez

--

Rio เป็นเรื่องของ "บลู" นกแก้วมาคอว์สีฟ้า ที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่กับ ลินดาซึ่งเป็นเจ้าของร้านหนังสือในเมืองมินนิโซต้า อเมริกา เดิมบลูนั้นเกิดในป่าที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง มันถูกจับมาขายตั้งแต่ยังเล็กในวันที่พ่อแม่นกกำลังฝึกให้มันบิน แต่มันดันพลัดตกลงมา และถูกจับได้ ระหว่างทางของการขนส่งกรงของมันกระเด็นตกลงมาและได้เจอกับลินดาสมัยยังเป็นเด็ก ลินดาเลี้ยงมันมาจนโตเป็นสาว บลูใช้ชีวิตอยู่กับลินดาแบบนกเลี้ยง ที่ไม่เคยแม้จะหัดบินสักครั้ง ทำให้มันบินไม่เป็น ...

วันหนึ่งมีนักปักษีวิทยาชาวบราซิลผู้ซุ่มซ่าม มาขอให้ลินดาพาเจ้าบลูไปผสมพันธุ์กับนกมาร์คอสีฟ้าเพศเมียอีกตัวที่ชื่อ จีเวล ซึ่งทั้งสองเป็น 2 ตัวสุดท้าย ก่อนจะสูญพันธุ์ ลินดา และบลู จึงต้องเดินทางมาที่เมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล บลู เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ของนกมาคอร์สีฟ้าไว้ ไม่ให้สูญไป..

เราจะเห็นฉากที่สีสันสวยงามของบราซิล และงานเทศกาล ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ดูหนังเรื่องนี้แล้วชักจะอยากไปเยือนประเทศนี้สักครั้งในชีวิตเลย เมื่อลินดา และบลูมาถึงริโอ เดอ จาเนโร เจ้าบลูมีเหตุการณ์ที่ต้องพลัดหลงจากลินดา เพราะนกสีฟ้าเพศเมียที่ชื่อ จีเวล ไม่ได้เชื่องอย่างที่คิด เธอพาเขาออกไปสู่โลกใหม่ และต้องเรียนรู้การมีชีวิตแบบนกที่แท้จริงอีกด้วยเพื่อช่วยชีวิตจีเวล และเพื่อนๆ เป็นการผจญภัยที่สอนให้เรากล้าหาญ กล้าที่จะทำในสิ่งใหม่ๆ หนังมีมุขตลกๆ ให้เราขำเล็กๆ เป็นระยะๆ





-- Rio 2011 : Movie Trailer 

Gnomeo & Juliet (2011) :อมตะความแค้น รักที่ต้องห้าม และสงครามในตำนาน



Gnomeo & Juliet (2011)
เรต :G ความยาว : 84 นาที ประเภท : Animation | Adventure | Comedy
ผู้กำกับ : Kelly Asbury
บทประพันธ์/เขียนบท : Rob Sprackling,John R.Smith
ดารานำแสดง (เสียง): Jame McAvoy,Emily Blunt และ Meggie Smith

--
Gnomeo & Juliet เป็นหนังการ์ตูนแอนิมเชั่นของค่าย Touchstone Picture ที่ใช้ไอเดียตัวละครเป็นแบบตุ๊กตาปูนปั้น โดยมีเนื้อเรื่องดัดแปลงมาจากบทละครที่ได้รับการยกย่องของเชคสเปียร์ เรื่อง Romeo & Juliet ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว ทายาทของ 2 ตระกูลที่เป็นศัตรูกัน

เรื่องเกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่งในอังกฤษซึ่งเป็น ที่ตั้งของบ้านตระกูลคาปูเล็ต และ มอนตากิว ทั้งสองบ้านอยู่ติดกัน แต่มีความเห็นขัดแย้งกัน จนเกิดเป็นสงครามย่อยๆ แม้สีของบ้าน ทั้งคู่ก็ยังทาคนละสีกัน ฝ่ายหนึ่งทาสีน้ำเงิน อีกฝ่ายหนึ่งทาสีแดง เมื่อเจ้าของบ้านไม่ถูกกัน ผู้อาศัยอยู่ในบ้านนั้นก็กลายเป็นศัตรูกันไปด้วย ไม่เว้นแม้แต่เจ้าตุ๊กตาปูนปั้นในสนามหญ้าหน้าบ้าน

ตุ๊กตาเหล่านี้ จะมีชีวิตเหมือนคนในยามที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ซึ่งกิจกรรมที่ทั้งเจ้าตัวโนม 2 สีนี้ใช้ในการต่อสู้กันคือ การแข่งรถ แต่เป็นรถตัดหญ้าของเจ้าของบ้านนั่นเอง พระเอกชื่อ โนมิโอ เกิดในครอบครัวสีฟ้า เขาอาศัยอยู่กับมารดา และเพื่อนๆ โดยมีชรูม ตุ๊กตาปูนปั้นรูปเห็ดเป็นผู้ช่วย ฝ่ายนางเอกคือ จูเลียต เกิดในครอบครัวสีแดง เธออาศัยอยู่กับพ่อ และมีตุ๊กตาปูนปั้นรูปกบเป็นที่ปรึกษา

ความรักของทั้งคู่เกิดขึ้น เมื่อตอนที่จูเลียตเห็นดอกกล้วยไม้บนหลังคาบ้านหลังหนึ่งจึงได้แอบออกจาก บ้านมาเด็ดไป หวังว่าจะพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าเธอเข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ และทำให้พ่อภูมิใจได้ การออกมาจากบ้านครั้งนี้ทำให้เธอได้พบกับเขา โนมิโอ ..

เหมือนดังในบทละครที่เรารู้กันดีอยู่แล้ว ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่ ไม่ได้ลงเอยกันได้ง่ายๆ แน่นอน ต้องผ่านอุปสรรคอีกหลายด่าน ซึ่งหนังทำได้สนุกดี แต่ทั้งคู่ก็มีผู้ช่วย คือเจ้าหงส์พลาสติกสีชมพูที่ถูกทิ้งไว้ในบ้านร้าง ที่ทั้งคู่ช่วยมันออกมา

มี ประโยคหนึ่งที่หงส์สีชมพูพูดในขณะที่เล่าเรื่องประวัติของตัวเองให้ โนมิโอกับจูเลียตฟัง ฉันชอบมากๆ และเห็นด้วย ข้อความประมาณว่า"อย่าปล่อยให้ความเกลียดชังของคนอื่น มาทำลายความรักของเรา" เพราะถ้าเราสังเกตให้ดี บางทีเราเองที่พาตัวเข้าไปอยู่ในกระแสแห่งความเกลียดชัง กระแสของความไม่เข้าใจกันของคนอื่นแท้ๆ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลย

ฉันว่าความขัดแย้งมีทุกสังคม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และจะมีต่อไปในอนาคต เหมือนในการ์ตูนเรื่องนี้ที่ข้อขัดแย้งของทั้งสองตระกูลเกิดขึ้นมาแล้วยาว นาน จนมาถึงรุ่นลูกอย่างโนมิโอ และจูเลียต ที่ได้คำพูดของหงส์สีชมพูพูดเตือนสติว่า "แท้จริงแล้วเราแก้ไขมันได้" นั่นก็คือ ไม่ว่าใครจะเกลียดชังกัน ใครแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน แต่เราเปลี่ยนสถานการณ์นั้นได้ โดยเริ่มจากตัวเราเอง ที่ไม่พาตัวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งนั้น

ฉัน ชอบหนังการ์ตูนเรื่องนี้มาก อาจเป็นเพราะฉันชอบสวนสวยๆ ในหนัง และตัวตุ๊กตาปูนปั้นน่ารักๆ ที่เอามาทำเป็นตัวละคร ดูแล้วรู้สึกว่ามันมีชีวิตจิตใจจริงๆ ฉันชอบที่หนังพยายามใส่เรื่องของการแตกหักของตุ๊กตาปูนปั้นเข้ามาในแง่ที่ ว่า การแตกหักของตุ๊กตาหมายถึงชีวิตของตุ๊กตานั้นเลย ฉันเชื่อว่าสิ่งนี้จะทำให้เรา หรือเด็กๆ ของเราที่ดูหนังเรื่องนี้รักษาของมากขึ้น ... ฉันอาจจะคาดหวังมากเกินไป แต่อย่างน้อยการที่หนังใส่เรื่องนี้เข้ามา ก็ทำให้ฉันตระหนักเรื่องการรักษาข้าวของมากขึ้นละนะ
--
Gnomeo & Juliet (2011) : Movie Trailer

The Man from Nowhere (2010) : ชายปริศนาผู้มาพิทักษ์เธอ


The Man from Nowhere (2010)
หนังเกาหลี (Korea : Ajeossi - Original Title)

เรต : R เวลาฉาย : 119 นาที ประเภท: Action | Crime | Thriller
ผู้กำกับ : Jeong-beom Lee
บทประพันธ์/เขียนบท : Jeong-beom Lee
ดารานำแสดง : Bin Won,Thanayong Wongtrakul และ Sae-ron Kim

 ---
 
ฉันเพิ่งดูหนังเรื่องนี้จบ ตอนแรกก่อนที่จะดูไม่คิดว่าจะเขียนลงในบลอคนี้ เพราะคิดว่าคงเป็นหนังบู๊ ล้างผลาญเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ที่ไหนได้ ดูจบแล้วได้รู้ว่าหนังเรื่องนี้มีอะไรมากกว่าที่คิดอีกเยอะ เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันอยากเขียนถึง

The Man from Nowhere
เป็นหนังเกาหลีที่เล่าเรื่องของชายหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อ ชา แต ซิก (Bin Won) เขาเปิดโรงรับจำนำ ตอนต้นเรื่องเราจะเห็นเด็กหญิงเอาเครื่องเล่น MP3 มาจำนำ เธอชื่อจอง ซูมิ (Sae-ron Kim) บทสนทนาของทั้งคู่ทำให้เรารู้ว่า เด็กหญิงมักมาอาศัยคลุกคลีกับเขาเป็นประจำ เพราะว่ามารดาของเธอไม่สนใจจะดูแล มารดาของเด็กหญิงนั้นทำงานเป็นแดนเซอร์ในบาร์แห่งหนึ่ง แม้ว่าเธอจะไม่ชอบใจนักที่ซูมิมาคลุกคลีอยู่กับชายหนุ่ม แต่ด้วยฐานะทางการเงินที่ย่ำแย่ ทำให้เธอต้องพึ่งพาอาศัยโรงรับจำนำของเขาเช่นกัน และในวันนี้เธอเอากล้องถ่ายรูปมาจำนำที่โรงรับจำนำของเขา

The Whistleblower (2010) : ผู้หญิงที่เป่านกหวีดให้โลกรู้


The Whistleblower (2010)
เรต :R เวลาฉาย : 112 นาที ประเภท: Drama
ผู้กำกับ : Larysa Kondracki

บทประพันธ์/เขียนบท : Larysa Kondracki,Eilis Kirwan
ดารานำแสดง : Rachel Weisz,Monica Bellucci,David Strathairn และ Vanessa Redgrave
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 3 รางวัล & ชนะเลิศ 4 รางวัล ดูรายละเอียด
เกร็ด : สร้างจากประสบการณ์จริงของแคเธอรีน บอลโคแวค (Kathryn Bolkovac)
----
คำโปรยของภาพยนต์เรื่องนี้เขียนไว้ว่า ไม่มีอะไรอันตรายมากไปกว่าความจริงที่ถูกเปิดเผย เพราะว่าเมื่อเราได้รับรู้ความจริงนั้นแล้ว จะพบว่ายังมีความชั่วร้ายอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกปิดบังเอาไว้จากการรับรู้ของ ผู้คน นอกจากนั้นยังเป็นความจริงที่น่าตกใจที่ว่า เรื่องเลวร้ายเหล่านี้ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด

The Whistleblower หมายถึง การที่คนหรือกลุ่มคน รายงานการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ผิดจริยธรรม ขององค์กรใดองค์กรหนึ่งให้คนอื่น ๆ รู้ ซึ่งเป็นเนื้อหาในภาพยนต์เรื่องนี้ด้วย โดยตัวละครเอกคือ แคเธอรีน บอลโคแวค (Rachel Weisz) เธอเป็นตำรวจหญิงชาวอเมริกัน ที่เข้ามาทำงานเป็นกองรักษาสันติภาพในช่วงหลังสงครามบอสเนียของสหประชาชาติ

เมื่อ เริ่มเข้ามาทำงานในหน้าที่นี้เธอได้รับรู้ความจริงอันโหดร้ายว่า ภายหลังสงครามสงบลงนั้นแผ่นดินไม่ได้สงบจริง กลับกลายเป็นว่ามีโสเภนีกระจายตัวเพิ่มขึ้นรวดเร็วราวกับเชื้อมะเร็งร้ายที่ นี่ เพียงเพราะว่าผู้ชายลดจำนวนลง พวกเธอจึงต้องมาเป็นเหยื่อที่ทารุณ ไม่ใช่แค่ต้องเป็นโสภนีเท่านั้น แต่พวกเธอกลายเป็นทาสไปด้วย

ด้วย ความเป็นแม่ที่มีลูกสาว ถึงแม้จะต้องแยกจากกันเพราะศาลสั่งให้ลูกสาวของเธออยู่กับอดีตสามีแทน แต่แคเธอรีนก็สวมหัวใจแม่ในการช่วยเหลือผู้หญิงเหล่านั้นสุดชีวิต แต่ยิ่่งช่วย ยิ่งเข้าไปรับรู้ความจริงอันโหดร้ายกว่าที่ว่า กระบวนการค้ามนุษย์ของที่นี่ล้วนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ยูเอ็นเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย

ในการพยายามเปิดเผยความ จริงนี้ให้โลกรู้ เธอต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เพราะเจ้าหน้าที่ที่ทำความผิดเหล่านั้นมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ แต่ก็ยังโชคดีที่มี เมดิลีน (Vanessa Redgrave) หัวหน้าแผนกของเธอ และปีเตอร์ (David Strathairn) เจ้าหน้าที่ปราบปรามทุจริต คอยช่วยเหลืออยู่

ฉันตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นดารารุ่นเก่าฝีมือเก๋าๆ หลายคนร่วมแสดงด้วย ถึง Monica Bellucci ซึ่งรับบทลอร่า เจ้าหน้ากฎหมายของยูเอ็น จะโผล่มาแว่บๆ และมีบทบาทไม่เยอะ แต่ก็พอทำให้หายคิดถึงเธอกันไปได้บ้าง

แม้เนื้อเรื่องจะค่อนข้าง หนัก หดหู่ แต่ก็เป็นความจริงของโลกมุมหนึ่ง ที่ปัจจุบันไม่สามารถซ่อนไว้ได้อีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ทำให้ความลับไม่มีในโลก และเมื่อถึงเวลาเปิดเผยขึ้นมาก็สามารถทำให้การรับรู้ของคนในโลกสะเืืทือนได้ เหมือนกัน แต่ก็ต้องอาศัยความกล้าหาญของคนกลุ่มหนึ่งที่จะกล้าหยิบนกหวีดออกมาเป่าให้ โลกรู้ ดังเช่นนางเอกของเรื่อง

ตอนท้ายหนังบอกความจริงว่า "การค้ามนุษย์คือ หนึ่งในอุตสาหกรรมผิดกฎหมายที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ประมาณว่าทั่วโลกมีคน 2 ล้าน 5 แสนค้นที่ถูกซื้อขาย" ที่น่าตกใจคือ ผู้หญิงที่เป็นเหยื่อจะถูกหลอกโดยคนใกล้ชิดที่ไว้วางใจที่สุด และเรื่องราวเหล่านี้ยังคงมีอยู่ต่อไปถ้ามนุษย์เรายังมองไม่เห็นคุณค่าของ ความมนุษย์ด้วยกัน ..
--
The Whistleblower (2010): Movie Trailer

Despicable Me (2010) :มิสเตอร์แสบหัวใจหน่อมแน้ม


Despicable Me (2010)
เรท : PG ระยะเวลาฉาย : 95 นาที ประเภท: Animation | Adventure | Comedy
ผู้กำกับ:Pierre Coffin, Chris Renaud
บทประพันธ์/เขียนบท : Conco Paul,Ken Daurio
ดารานำแสดง(เสียง) : Steve Carell,Jason Segel และ Russel Brand
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 14 รางวัล & ชนะเลิศ 2 รางวัล ดูรายละเอียด

--
หนังการ์ตูนเรื่องนี้ เป็นหนังที่ดูสนุกๆ ที่ดูสบายๆ,เต็มไปด้วยมุขตลกร้าย และการเล่นคำที่ฟังแล้วขำๆ ดี ส่วนการดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างซับซ้อนในช่วงแรกๆ แต่ก็มาเฉลยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นในตอนท้ายเรื่อง

Despicable Me  เป็นเรื่องราวของชายชื่อ Gru ผู้ซึ่งถูกมารดาสั่งสอนตั้งแต่เล็กว่าให้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้กับโลกใบนี้ แต่สิ่งที่มหัศจรรย์ที่ว่า่น่ะ ต้องผลิตมาเพื่อสร้างความทุกข์ยากให้ผู้คน ตั้งแต่เล็กจนโตเขาก็เฝ้าเพียรสร้างคิดค้นเจ้าสิ่งที่ว่าตลอด จนวันหนึ่งเกิดไอเดียสุดยอดขึ้นมาว่า เขาจะสร้างยานเพื่อไปขโมยพระจันทร์มาเก็บไว้เป็นของตัวเอง ภายในส่วนหนึ่งของบ้านของเขา มีห้องแล๊ปเพื่อคิดค้นงานใหม่ๆ โดยมี Dr. Nefario เป็นผู้ช่วยเหลือ โดยนิสัยของนาย Gru นี้ค่อนข้างจะใจร้้ายชอบกลั่นแกล้งผู้อื่นทุกครั้งที่มีโอกาส ชาวบ้านชาวช่องจึงรังเกียจเขากันหมด นอกจาก Dr. Nefarioแล้ว เขามีเหล่าสมุนหุ่นยนต์สีเหลืองเท่านั้นที่คอยพูดคุยกับเขา เจ้าตัวหุ่นยนต์สีเหลืองนี่น่ารักดี มันตลกตรงที่จะคอยพูดภาษาคนผิดๆ ถูกๆ อยู่เรื่อย เวลาเจ้านายใช้มันไปซืั้้อของอย่างหนึ่ง มันก็ไปซื้อมาอีกอย่าง เพราะมันเรียกชื่อไม่ถูกนี่เอง :D

ส่วนตัวร้ายของเรื่องคือ ชายที่ชื่อว่า Vector เดิมเขาก็เป็นคนปกติไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่มีเหตุการณ์ในวัยเด็กได้รับคำยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะจากเหตุการณ์บังเอิญ เหตุการณ์หนึ่ง และได้รางวัลอยู่เรื่อยๆ เขาจึงโตขึ้นมาเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นที่เก่งกาจที่แล้วก็จะต้องไปมีเหตุให้ มีปัญหากับนาย Gru อยู่เรื่อยๆเช่นกัน เพราะทั้งสองแข่งกันเป็นประดิษฐ์ที่เก่งที่สุดในโลก

ถ้าหากเรื่อง ดำเนินไปเรื่อยๆ เช่นนี้ก็ไม่ีมีอะไรแปลกใช่ไหม มันต้องเพิ่มเรื่องราวอีก นั่นคือ มีเด็กกำพร้าพี่น้อง 3 คน อยู่บ้านเด็กกำพร้า ทั้งสามถูกใช้แรงงานราวกับทาสให้ออกมาขายคุ้กกี้ทุกวัน วันหนึ่งนาย Gru เห็นว่า การจะเข้าไปขโมยของสำคัญในบ้านของ Vector ได้นั้น ต้องอาศัยเด็ก 3 คนที่เข้าไปขายคุกกี้นี่แหล่ะ เพราะระบบการรักษาความปลอดภัยที่บ้านนั้นเข้มงวดมาก เขาจึงวางแผนไปขอรับเด็ก 3 คนนี้มาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม หวังผลว่าจะผลิตหุ่นยนต์คุกกี้แล้วให้เด็กพวกนี้เอาเข้าไปขายในบ้านของ Vector..

เรื่องชักเริ่มสนุกแล้วใช่ไหมล่ะ :) หลังจากนี้ไปจะเป็นหัวใจของภาพยนต์เรื่องนี้ นั่นคือ เมื่อนาย Gru ผู้โดดเดี่ยว และไม่เคยได้ความรักจากแม่ ต้องมากลายเป็นคุณพ่อจำเป็นที่มีลูกติด 3 คน ทั้งซนทั้งแก่น แถมขี้อ้อนสุด Gru จะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากคนใจร้าย เพราะเด็กพวกนี้ หรือว่าจะคงดำเนินตามแผนการณ์ต่อไป บทเฉลยนั้นเดาทางได้ไม่ยาก เพราะเป็นแพทเทิร์นสำหรับหนังเด็กอยู่แล้ว 555 แต่เราจะได้ความสนุก และซึ้งใจไปกับความสัมพันธ์ของพวกเขา ระหว่างผู้ใหญ่ตัวโตที่ขาดแคลนความรัก กับเด็กๆ ที่โหยหาความรัก พวกเขาจะเติมเต็มกันได้อย่างไร นี่เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้สัมผัสขณะชมภาพยนต์เรื่องนี้

Diary of a Wimpy Kid (2010) : ช่วงชีวิตที่ถูกมองว่าเป็นเด็กไม่เอาถ่าน


Diary of a Wimpy Kid (2010)
เรต :PG เวลาฉาย : 94 นาที ประเภท : Comedy | Family
ผู้กำกับ : Thor Freudenthal

บทประพันธ์/เขียนบท: Jackie Filgo,Jeff Filgo
ดารานำแสดง : Zachary Gordon,Robert Capron,Chloe Grace Moretz และ Racheal Harris
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิง 7 รางวัล & ชนะเลิศ 3 รางวัล ดูรายละเอียด
--
หนัง เรื่องนี้มีประโยควรรคทองอยู่ประโยคหนึ่งที่ทำให้ฉันต้องเปลี่ยนความคิดเสีย ใหม่ี่จากที่เคยคิดว่าหนังเด็กเป็นหนังไม่มีสาระอะไร ดูเพลินๆไปก็แค่นั้น ประโยคนี้เป็นคำพูดท้ายเรื่องที่สื่อความหมายได้ว่า "เมื่อเราโตขึ้นเราอาจจะมองว่าเรื่องปัญหาของเด็กๆ เกี่ยวกับเพื่อนหรือที่โรงเรียน เป็นเรื่องไร้สาระ แต่สำหรับเด็กในวัยนั้น เรื่องเหล่านี้เป็นชีวิตของพวกเขาเลย" นี่เป็นจุดสำคัญว่าทำไมผู้ปกครองส่วนใหญ่ถึงเข้าไปไม่ถึงโลกของเด็กๆ

Diary Of A Wimpy Kid เป็นเรื่องราวของเด็กชายที่กำลังจะ้ก้าวสู่วัยรุ่นชื่อ เกร๊ก เฮฟรี่ (Zachary Gordon) เขาเพิ่งจนพ้นการเรียนระดับประถมเข้าสู่มัธยม ซึ่งก่อนจะพบกับเหตุการณ์จริงในโรงเรียนก็ถูกพี่ชายจอมซ่าส์ขาร๊อค รอดดิ๊ก เฮฟวี่ (Devon Bostick) ทั้งขู่ทั้งกดดันว่าชีวิตในชั้นเรีียนมัธยมน่ะแสนจะโหดร้าย รับรองนายอยู่ได้ไม่ถึงเทอมแน่ๆ

แต่หนุ่มน้อยเกร๊กแม้จะตัวเล็กแต่ ใจเด็ดไม่หวาดหวั่นประการใด แถมยังตั้งเป้าว่า จะพิชิตตำแหน่งมิสเตอร์ป๊อปปูล่าร์ที่สุดในชั้นเรียนให้ได้ปลายเทอมอีกด้วย เกร๊กมีเพื่อนสนิทเป็นคู่หูคนหนึ่งชื่อว่า โรวลี่ เจฟเฟอสัน (Robert Capron) เขามีรูปร่างอวบอ้วน แถมยังมีนิสัยเหมือนเด็กซึ่งเกร็กต้องคอยสอนอยู่เรื่อยๆ เรื่องการปฎิบัติตัวให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น(เอ่อ หนูเพิ่งเรียนมัธยมนะ +_='')

เขา เริ่มเขียนไดอารี่ประจำวันเนื่องจากมีความฝันว่า เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสีียงในอนาคต เมื่อมีนักข่าวมาถามถึงประวัติในวัยเด็กของเขา ก็จะได้ยื่นสมุดไดอารี่เล่มนี้ให้ซะเลย ไม่ต้องเสียเวลาตอบให้มากความ ดังนั้นเขาจึงต้องบอกให้รู้กันซะก่อนนะว่า "นี่ไม่ใช่ diary แต่มันคือ journal!" (แม้จะต้องกำชับกับแม่ว่าห้ามซื้อสมุดบันทึกที่มีปกเขียนว่า "ไดอารี่"มาให้) นี่คือที่มาของหนังเรื่องนี้

เมื่อเข้าเรียนชั้น มัธยมจริงๆ เขาพบว่ามีสิ่งต่างๆ ที่ต้องเรียนรู้อย่างมากมาย รวมถึงเพื่อนในชั้นเรียนที่มีนิสัยต่างๆ กันด้วย ไม่ว่าจะเป็นสาวน้อยแองจี้ (Chloe Moretz) ที่อยู่ในชมรมนักข่าวมักจะถ่ายภาพเขาตอนทำเรื่องน่าอายลงวารสารของโรงเรียน เป็นประจำ , ชีรัค(Karan Brar) ผู้มีร่างเล็กแคระแกร็น ซึ่งเป็นคนเล่าเรื่องตำนานชีสต้องคำสาปให้ฟังว่า ถ้าใครเผลอไปแตะเจ้าชีสแผ่นนี้ นักเรียนทั่วโรงเรียนจะรังเกียจ และพากันหลบหน้า แต่เจ้าชีสนี้เองภายหลังเป็นตัวพิสูจน์ความกล้าหาญให้กับเกร็กจนเรื่องราว ทั้งหลายจบได้อย่าง Happy Ending

เรื่องราวของเกร็กยังมีอีกมากมาย ล้วนแล้วแต่ทำให้เขาได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้รู้จักคำว่ามิตรภาพและเพื่อนแท้ สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด สุดท้ายได้เรียนรู้ว่า ชีวิตวัยเรียนมันก็แค่ช่วงวัยหนึ่งเท่านั้นแหล่ะ แล้วมันก็จะผ่านไป สิ่งที่เก็บเกี่ยวไว้กับวันเวลาควรจะเป็นเรื่องราวที่ดีๆเ่ท่านั้น

ฉัน ดูหนังเรื่องนี้ไปพร้อมกับนึกถึงชีวิตในวัยเรียนของตัวเอง ไม่ต่างกับเกร็กที่สมัยนั้นทะเลาะกับเพื่อนบ้าง งอนกันบ้าง ด้วยเรื่องไร้สาระ หรือเข้าใจผิดกัน พอวันนี้โตขึ้นถึงได้เข้าใจว่า ทำมิตรภาพระหว่างเพื่อนหล่นหายไปกลางทาง วันนี้แม้อยากจะกลับไปขอโทษกับเพื่อนบางคน ก็ยากเสียแล้ว เพราะต่างคนต่างก็มีชิีวิตของตัวเอง ทำให้ไกลห่างกันไป จนต่อกันไม่ติดเสียแล้ว ...

--Diary of a Wimpy Kid (2010) : Movie Trailer

Orca (1977) : วาฬเพชฌฆาต


Orca (1977)
เรต : PG ความยาว :92 นาที ประเภท : Adventure | Horror | Thriller
ผู้กำกับ : Michael Anderson
บทประพันธ์/เขียนบท : Luciano Vincenzoni, Sergio Donati,
ดารานำแสดง: Richard Harris, Charlotte Rampling และ Will Sampson

--
"วาฬ เพชฌฆาต สัตว์ที่ทรงพลังที่สุด มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดที่พบในทะเลทุกแห่ง ชาวโรมันเรียกมันว่า "ออร์ก้า ออร์คินัส" ชาวละตินเรียกมันว่า "ยมฑูต" หางและครีบของมันทำให้ออร์ก้าเป็นวาฬที่ว่ายน้ำได้เร็วทีุ่สุดในมหาสมุทร ตัวผู้ที่โตเต็มที่จะมีขนาดประมาณสามสิบฟุต และหนักหกตันจนไปถึงสี่สิบห้าฟุต ในปากของออร์ก้ามีฟันสี่สิบแปดซี่ที่เรียงกันอยู่สองแถว

ด้วยนิสัย คล้ายมนุษย์ของมัน จึงทำให้มันมีสัญชาตญาณของการพยาบาท สิ่งที่น่าทึ่งของสัตว์ชนิดนี้ไม่ใช่ทั้งความเชื่องและความป่าเถื่อนแต่อยู่ ที่สมอง เรามีความรู้น้อยมากเกี่ยวกับศักยภาพสมองของมัน เรารู้แค่ว่ามันอายุยืน และทรงพลังซึ่งอาจจะพูดได้ว่าวาฬเหนือกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำ พวกมันสื่อสารกันโดยการผสมเสียงและสะท้อนกลับเป็นโซนาร์ให้เป็นภาษาของตัว เอง ทำให้ไม่ใช่ได้ยินแค่ในมหาสมุทรเดียวเดียวเท่่านั้น แต่สามารถได้ยินไปทั้งโลก.."

Chocolat (2000) : หวานนัก...รักชอคโกแลต


Chocolat (2000)
เรท:PG-13 ความยาว : 121 นาที : ประเภท : Drama,Mystery,Romance
ผู้กำกับ : Lasse Hallstrom
บทประพันธ์ /เขียนบท : Joanne Harris,Robert Nelson Jacobs
ดารานำแสดง : Juliette Binoche,Judi Dench และ Johnny Depp
รางวัลที่ไ้ด้รับ : ได้รับเข้าชิงรางวัลออสการ์ 5 รางวัล,อื่นๆ 28 รางวัล ชนะเลิศ 8 รางวัล ดูรายละเอียด
--
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในฝรั่งเศสที่ทุกคนเชื่อใน "ความเงียบสงบ"ถ้าคุณอยู่ในหมู่บ้านนี้ คุณจะเข้าใจว่าผู้คนที่นี่คาดหวังอะไรจากคุณ, คุณจะรู้กาละเทศะในเรื่องต่างๆ และถ้าคุณลืม ก็จะมีคนคอยช่วยเตือน ในหมู่บ้านนี้ถ้าคุณบังเอิญไปเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น คุณควรเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ถ้าคุณผิดหวังในสิ่งที่คุณหวัง คุณควรเรียนรู้ที่จะไม่ขออะไรมาก ดังนั้นทั้งยามทุกข์ สุข ชาวบ้านยังคงยึดถือตามประเพณีอย่างเคร่งครัด จนกระทั่งวันหนึ่งในฤดูหนาว ลมหนาวพัดกรรโชกมาอย่างแรง ..

Chocolat เป็นเรื่องราวในหมู่บ้านแห่งนี้ที่เคยอยู่กันด้วยวิถีชีวิตดั้งดิมที่คุ้นชินมาตลอด แต่พลันเปลี่ยนแปลงไปเมื่อลมหนาวจากทิศเหนือพัดเอาหญิงสาว (Juliette Binoche) และลูกสาวก้าวเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ เธอมาเช่าตึกแห่งหนึ่งโดยชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายชอคโกแลต และด้านบนใช้พักอาศัย ในขณะเตรียมเปิดร้าน ผู้คนในหมู่บ้านต่างสนใจแวะเวียนกันมาแอบดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ร้านชอคโกแลตที่ตกแต่งด้วยรูปปั้น,และสิ่งของสไตล์ชนเผ่ามายาของเธอเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฤดูถือศีลอดของชาวบ้านในเมือง นั่นยิ่งทำให้ท่านเคาน์ผู้มีอิทธิพล (Alfred Molina) ขุ่นเคืองใจ เขาเป็นคนเคร่งครัดขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมา จึงต่อต้านหญิงสาวทุกรูปแบบ ที่ำสำคัญคือเขามักจะกระจายเรื่องของเธอในทางไม่ดีให้กับชาวบ้าน และห้ามไม่ให้พวกเขาติดต่อกับเธอ

ขณะที่เปิดร้านชอคโกแลตในเมืองนี้ เธอกับลูกสาวได้ช่วยเหลือเหล่าบรรดาภรรยาที่มีปัญหากับสามีไว้หลายคนด้วยการใช้ชอคโกแลต และถั่วพื้นเมืองของเผ่ามายา นอกจากนั้นยังสานสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวของหญิงชราเจ้าของตึกที่ให้เธอเช่า (Judi Dench) กับลูกสาว (Carrie-Anne Moss) และหลานชาย ไว้ได้อีกด้วย

จนวันหนึ่งมีเรือของเหล่าโจรสลัดมาจอดเทียบท่าริมฝั่งแม่น้ำของเมืองนี้ ทำให้เธอได้รู้จักกับโจรสลัดหนุ่ม (Johnny Depp) เธอและเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ชะตาชีวิตที่ต้องเร่ร่อนไปเรื่อยๆ อันถูกสืบทอดมารุ่นต่อรุ่นตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่สูตรชอคโกแลตของเผ่ามายาให้กับผู้คน

และเมื่อลมเหนือพัดมาอีกครั้ง.. ก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องเดินทางต่อไป

---

ปกติฉันไม่ชอบกินชอคโกแลต เพราะไม่ชอบรสขมหวานของมัน แต่ขณะดูหนังเรื่องนี้รู้สึกน้ำลายสอ ด้วยว่าร้านชอคโกแลตของนางเอก มีชอคโกแลตสูตรแปลกๆ ที่น่าลองลิ้มเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งการตกแต่งร้านก็ทำได้น่ารัก ดูแล้วอยากมีร้านเล็กๆ แบบนี้เป็นของตัวเอง ร้านที่เป็นเหมือนห้องรับแขกให้ผู้คนที่มีปัญหาเข้ามานั่งพักใจ อย่างที่นางเอกในเรื่องนี้ทำ

เธอสามารถแก้ปัญหาให้คนจำนวนมาก โดยวิธีการเพียงแค่ นั่งฟังพวกเขา จากที่ฉันสังเกตเธอแทบไม่ได้พูดแนะนำอะไรเลย นอกจากนั่งฟังให้พวกเขาพูดถึงปัญหาตัวเองก่อน หลังจากนั้นเธอก็ให้ดื่มชอคโกแลตรสชาติต่างๆ หรือไม่ก็ขนมเค้กชอคโกแลต พอพวกเขาอารมณ์ดี สบายใจ ก็จะคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาได้เอง ซึ่งเป็นวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด เพราะเจ้าของปัญหาย่อมรู้ดีที่สุด

หนังเรื่องนี้จึงเป็นหนังที่เล่าเรื่องได้อย่างน่ารัก ภาพเมืองเล็กๆ ที่มีระเีีบียบสวยงาม ผู้คนยังใกล้ชิดกัน ถึงจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่มาใหม่ กับคนที่อยู่มาก่อนเข้าใจกันยากสักหน่อย แต่บางครั้งการจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง ถึงแม้ว่าดี ก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลา ขอเพียงอย่าเพิ่งท้อแท้ใจ ยอ่มมีคนมองเห็นความตั้งใจที่ดีอย่างแน่นอน  ...

--- Chocolat (2000) : Movie Trailer

Orphan (2009) : เด็กอันตราย



Orphan (2009)
เรท:R ความยาว : 123 นาที ประเภท : Thriller
ผู้กำกับ : Jaume Collet-Serra
บทประพันธ์/เขียนบท : David Johnson,Alex Mace
ดารานำแสดง : Vera Farmiga,Peter Sarsgaard และ Isabelle Fuhrman
---

ไม่รู้ว่าคุณจะคิดเหมือนฉันไหมที่่ว่า ไม่ว่าหนังสยองขวัญสั่นประสาทเรื่องไหนที่เกี่ยวกับเด็กๆมันจะดูน่ากลัวกว่าปกติ ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น หรือว่าอาจจะเป็นเพราะเรามีภาพในใจที่ว่าเด็กคือผ้าขาว พวกเขาล้วนสะอาดบริสุทธิ์ พอทำเรื่องโหดๆ ถึงดูขัดแย้งกับความเชื่อดั้งเดิม เลยทำให้น่ากลัว ฉันเดาว่าอย่างนั้นนะ หนังเรื่องนี้ก็เข้าข่ายอย่างที่พูดมา

Orphan เป็นเรื่องราวของครอบครัวๆ หนึ่งที่รับเด็กหญิงจากบ้านเด็กกำพร้ามาเลี้ยง และได้พบว่าตั้งแต่เด็กหญิงคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้าน มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย  หนังเปิดเรื่องมาให้เราเห็นครอบครัวๆ หนึ่งอันประกอบด้วย สามีหนุ่ม จอห์น (Peter Sarsgaard) ภรรยาสาว เคท(Vera Farmiga) และลูกชายคนโตเดนี่ยล และ สูกสาวคนเล็ก แมกซ์ พวกเขาเพิ่งผ่านพ้้นภาวะวิกฤตในครอบครัวมา เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เคทเคยแท้ง ด้วยความเสียใจทำให้เธอติดสุรา จนพาแมกซ์ตกน้ำทำให้หูของแมกซ์ไม่ได้ยินอีกต่อไป  หลังจากอะไรๆ เริ่มดีขึ้นเคทบำบัดอาการติดสุราสำเร็จ จึงมีความเห็นร่่วมกันว่า ควรจะไปรับเด็กหญิงอีกคนมาเลี้ยง

พวกเขาจึงไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ด้วยบุคลิกที่โดดเด่น ฉลาดเกินวัย หน้าตาน่ารักของเอสเธอร์ (Isabelle Fuhrman) จอร์นและเคทจึงตัดสินใจบอกรับเลี้ยงเธอโดยไม่รอเอกสารให้เรียบร้อยใดๆ ทั้งสิ้น ภายในวันนั้นพวกเขาพาเอสเธอร์กลับมาที่บ้านทันที

หลังจากที่พวกเขาได้อาศัยอยู่ร่วมกันระยะหนึ่ง เคทค้่นพบว่าทุกอย่างรอบตัวเธอกำลังเปลี่ยนแปลงไป ทุกคนเข้าใจเธอผิด แถมเอสเธอร์ที่น่ารักก็มีท่าทีแปลกๆ  ยิ่งนานวันสมาชิกในบ้านเริ่มพบกับปัญหาขึ้นเรื่อยๆ เคทจึงเริ่มสืบหาความจริงเกี่ยวกับเด็กหญิงที่รับเข้ามา .. และได้พบความจริงอันน่าสพรึงกลัว

--
หนังเรื่องนี้ดูสนุก และค่อนข้างหักมุม ในตอนแรกที่ดูเราคิดว่าพล๊อตเรื่องก็คงคล้ายๆ กับเรื่องอื่นที่เคยดูมา แต่ปรากฎว่าผิดคาดมากๆ ประกอบกับดาราที่มาแสดงเก่งมากๆ ทุกคนไม่ว่าเด็กยันผู้ใหญ่ แม้กระทั่งเด็กที่เล่นเป็นใบ้ก็ยังแสดงเก่งมากๆ หนังเรื่องนี้จึงทำให้เราเชื่อได้ง่ายๆ

ดูหนังจบก็อดคิดไม่ได้ว่า สมัยนี้อะไรๆ ก็อันตรายไปหมด ฉันหมายถึงการคบคน,การช่วยเหลือคนก็ยังอันตราย เพราะคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ขนาดดูว่าเป็นเด็กไร้พิษสงยังอันตรายได้เลย ถ้าไม่ตรวจสอบดีๆ ไม่แปลกอะไรที่คนในยุคนี้ถึงขอความช่วยเหลือกันยาก ไม่ใช่ไม่มีน้ำใจแต่ว่าเพราะว่าสังคมทำให้คนดีท้อแท้ต่างหากล่ะ .. รู้สึกฉันจะบ่นมากไปล่ะ นี่มันหนัง thriller นะ (สงสัยจะอินเกินไป ฮ่า ฮ่า)

--
Orphan 2009 : Movie Trailer

Vanity Fair (2004): สู่ฝันวันเกียรติยศ


Vanity Fair(2004)
เรท PG-13  ความยาว : 141 นาที  ประเภท :  Drama | Romance
ผู้กำกับ : Mira Nair
บทประพันธ์/เขียนบท : Matthew Faulk,Mark Skeet
ดารานำแสดง : Reese Witherspoon,Romola Garai และ Jonathan Rhys Meyers
 รางวัลที่ได้รับ :  ได้รับการเสนอเข้าชิง 3 รางวัล และชนะเลิศ 1 รางวัล
--
ภาพยนต์เรื่องนี้สร้างจากเค้าโครงเรื่องของนวนิยายชื่อเีดียวกันของ William Makepeace Thackeray โดยนวนิยายเรื่องนี้เคยถูกนำมาสร้างเพื่อฉายทางทีวีแล้ว แต่ว่าในเวอร์ชั่นของผู้กำกับสาวมิร่า แนร์นี้ มีการปรับเปลี่ยนบทของตัวละครหลักคือ เบกกี้ ชาร์ปหลายอย่าง

Vanity Fair เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษในช่วงปี 1802 หนังเล่าเรื่องราวของเบกกี้ (Reese Witherspoon) หญิงสาวผู้ซึ่งมีความกล้าหาญ เฉลียวฉลาด หน้าตาสวยงาม เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อยกระดับตัวเองให้เทีียมหน้าตาผู้คนในสังคม แต่ด้วยต้นทุนที่ำต่ำเพราะทั้งกำพร้าและยากจน จึงต้องผ่านเรื่องราวที่ท้าทายต่างอีกมากมายกว่าจะถึงวันนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554

The Boy In The Striped Pajamas (2008) : เด็กชายในชุดนอนลายทาง

The Boy In The Striped Pajamas (2008)
เรท PG-13 ความยาว 94 นาที ประเภท : Drama | History | War
ผู้กำกับ : Mark Herman
บทประพันธ์ : John Boyne (นวนิยาย),Mark Herman(เขียนบท)
ดารานำแสดง : Asa Butterfield,David thewlis,Rupert Friend และ Vera Farmiga
รางวัลที่ได้รับ : ชนะเลิศ 2 รางวัล & ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัล 5 รางวัล รายละเอียด
---
วัยเยาว์เป็นวัยที่สวยงาม เพราะเหมือนผ้าขาวสะอาด พวกเขาไม่เคยแบ่งแยกแยกชนชั้น พวกเขาไม่เคยมีความคิดเกลียดชังและอยากทำร้ายกัน พวกเขาไม่มีข้อจำกัดใดๆ ในการสร้างความสัมพันธ์ และที่สำคัญพวกเขาไม่มีความคิดที่จะทำสงครามเหมือนผู้ใหญ่ แต่สงครามก็ทำให้เด็กผู้บริสุทธิ์กลายเป็นเหยื่อรับเคราะห์แทน โดยไม่เว้นว่าจะเป็นฝ่ายไหน ดังเรื่องราวของเด็กชาย 2 คนในหนังเรื่องนี้