วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Jet Lag (2002) : ตกเครื่องดีนัก รักเสียเลย


Jet Lag (2002)
หนังฝรั่งเศส (French:Décalage horaire -original title)
เรท : R ความยาว : 91 นาที ประเภท : Comedy|Romance
ผู้กำกับ : Danièle Thompson
บทประพันธ์/เขียนบท:Christopher Thompson, Danièle Thompson
ดารานำแสดง :Juliette Binoche, Jean Reno และ Sergi López

--
“ฉันเคยถูกตี ไม่ใช่เพราะแอบโดดเรียนไปดูหนังหรอกนะ แต่เพราะว่าหนังที่แอบไปดูน่ะ เป็นหนังอเมริกัน เพราะพ่อแม่ของฉันท่านรับไม่ได้ พ่อบอกว่ามันโง่เง่า ส่วนแม่บอกว่า มันไม่ใช่ความจริงของชีวิต.. แน่ล่ะ คนจนกลับรวย คนรวยมีปัญหา คนต่างด้าวได้บัตร สงครามยุติ คนตายฟื้นได้ และโสเภณีแต่งงานกับเศรษฐี เฮ้อ มันน่าจะเป็นจริงนะ แอนดี้ วอร์ฮอล( คนอเมริกัน )เคยพูดไว้ว่า “ทุกคนควรได้มีชื่อเสียงสัก 15 นาทีในชีวิต” แต่ฉันรู้สึกเสมอว่า ฉันควรมีสิทธิ์ดังทั้งวันมากกว่า ทั้งวันซึ่งชีวิตฉันจะเหมือนหนังอเมริกัน... “ นี่เป็นคำเกริ่นนำจากนางเอกของหนังเรื่องนี้ อันจะนำเราไปสู่เรื่องราวความรักที่อัศจรรย์ราวกับหนังอเมริกันของเธอ



Jet Lag เป็นเรื่องราวของชายหญิงคู่หนึ่ง พวกเขาต่างคนต่างมีเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ของการเดินทางที่ต่างกัน แต่ต้องมาใช้วันเวลา 1 คืน ด้วยกัน ณ สนามบินชาร์ล เดอ โกลของฝรั่งเศส หญิงสาวคนนั้นคือ โรส (Juliette Binoche) เจ้าของประโยคเกริ่นเก๋ๆ ข้างต้นซึ่งต้องเดินทางไปเริ่มงานใหม่ ณ ประเทศเม็กซิโก ส่วนฝ่ายชายคือฟิลิกซ์(Jean Reno)ผู้ซึ่งมีเป้าหมายในการเดินทางไปขยายธุรกิจอาหารกล่องแช่แข็งที่ประเทศเยอรมัน และด้วยเหตุฉุกเฉินหลายอย่างเครื่องบินไม่สามารถบินได้ตามกำหนดการปกติ ทำให้ทั้งคู่ตกค้างอยู่บริเวณเทอมินอลสนามบินร่วมกับผู้โดยสารจำนวนมากที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน

โรสนั้นเป็นคนช่างแต่งหน้าและนักกดจุดบำบัดมืออาชีพ ซึ่งมีอันได้รู้จักกับฟิลิกซ์ ด้วยเหตว่าเธอทำโทรศัพท์ตัวเองตกส้วมจึงจำเป็นต้องยืมโทรศัทพ์คนใกล้ตัวใช้ ซึ่งคนที่โชคร้ายคือเขานั่นเอง และตั้งแต่นั้นดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถแยกจากเขาได้ ต้องให้มีเหตุเจอกันอยู่เรื่อยๆ จนสุดท้ายฟิลิกซ์ยื่นข้อเสนอให้เข้าไปพักด้วยกันในห้องพักหรูที่ทางสนามบินให้กับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสขณะรอเครื่อง

1 คืนที่ทั้งคู่ได้อยู่ร่วมกันแม้ว่าจะไม่ยาวนาน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้คนอกหักสองคนเข้าอกเข้าใจกัน ฉันชอบการสนทนาของทั้งคู่นะ เพราะมันแสดงถึงตัวตนของแต่ละฝ่ายได้ดี โรสเป็นคนที่มนุษย์สัมพันธ์ดีมาก เธอจึงพยายามชวนเขาคุยตลอด ซึ่งตรงกันข้ามกับฟิลิกซ์ ที่ปิดกั้นตัวเอง อย่างในฉากแรกๆที่เขาเปิดโน๊ตบุคนั่งทำงานแล้วโรสถามอะไรสักอย่างนึงนี่แหล่ะ เขาก็เลยพูดว่า “ เออนี่ เราไม่ต้องคุยกันก็ได้นะ ต่างคนต่างทำงานไป” โรสตอบกลับมาชนิดเล่นเอาฉันก๊ากเลย “พอดีงานของฉันต้องทำกับคนน่ะ” ฮ่า ฮ่า

ด้วยหตุผลที่ว่าพวกเขาจะเจอกันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวจึงตกลงกันว่า จะเปิดใจตอบคำถามที่อีกฝ่ายสงสัยทั้งหมด นั่นจึงเป็นประตูบานแรกที่ทำให้ชายหญิงแปลกหน้าสองคนได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน มีหลายประโยคหนึ่งที่ฉันชอบมากในบทสนทนาของทั้งคู่อาิทิ “คุณเคยคิดบ้างไหมว่า เป็ดอบส้มในช่องแข็งที่อยู่ในกล่องพลาสติกที่เป็นสินค้าที่คุณขายน่ะ อาจจะเป็นตัวคุณ” ซึ่งโรสพูดให้ ฟิลิกซ์ เห็นตัวเองได้อย่างชัดเจนชนิดที่ฉันว่าคงไม่เคยมีใครเคยพูดกับเขาตรงๆ อย่างนี้มาก่อนแน่ๆ

แต่อย่างไรก็ตามบทลงเอยก็เป็นอย่างที่ ฟิลิกซ์ โทรฝากข้อความไว้ให้กับโรสในตอนจบที่ว่า “ ชีวิตไม่ได้มีตอนจบเหมือนกับหนังฮอลลีวูด เราต้องสร้าตอนจบอย่างมีความสุขด้วยตัวเราเอง ไม่มีใครสร้างให้เรา มันขึ้นอยู่กับว่า.. เราจะให้หนังจบเมื่อไหร่” แหม จบได้คม แต่ไม่วายจิกกัดชาวบ้านเค้าอีกนะ ...

--
ฉันว่าหนังฝรั่งเศสเรื่องนี้อธิบายถึงลักษณะนิสัยของคนฝรั่งเศสได้ดีมากๆ โดยเฉพาะตัวพระเอกที่ปากจัดกัดเจ็บ เหน็บได้ทุกเรื่องอีกต่างหาก แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนภาพของอุปนิสัยคนเมืองสมัยนี้ได้ดีเช่นเดียวกัน สำหรับดารานำแสดงแสดงอย่างจูเลียต บิโนชก็รับบทสาวซื่อ ขี้สงสาร ใจอ่อน ได้อย่างน่ารักน่าชัง เธอพูดตรงๆ แต่โดนทุกประโยค

ดูหนังจบแล้วฉันสรุปกับตัวเองว่า นี่เป็นหนังรักฝรั่งเศสที่แสนน่ารัก เล่าเรื่องเรียบง่าย แต่ลึกซึ้งโดนใจ แน่นอนว่ามันไม่ใช่หนังรักอเมริกันปรุงสำเร็จเช่นโดนัทสีสันสดใสรสชาติแสนหวาน แ่ต่เป็นมากาฮองสีสวยที่มีขั้นตอนการปรุงละเอียดอ่อน ต้องใส่ใจตั้งแต่การคัดเลือกส่วนผสม อุณหภูมิก็ต้องพอดี วิธีการปรุงก็ต้องใส่ใจทุกรายละเอียด ผลที่ออกมาจึงเป็นขนมหวานฝรั่งเศสที่แสนอร่อยรสชาติหวานล้ำ นุ่มนวล ได้ชิมสักครั้งคุณจะไม่ลืมอีกเลย..

Jet lag movie : Poster & pictures

3 ความคิดเห็น :

  1. ป๊าด น้า Jean Reno ในบทพระเอกหนังโรแมนติกคอมเมดี้ ไม่เคยพบเคยเห็น จดลงบัญชีหนังน่าดูด่วน :D
    ช่วงนี้ชีวิตผมก็เหมือนในหนังฮอลลีวู้ดเหมือนกันครับ แต่เป็นแนวอุทกภัย มหันตภัยนะ ยังคิดไม่ออกว่าตอนจบจะแฮปปี้เอนดิ้งป่าว อิอิ เริ่มเก็บของหนีน้ำแล้วครับ ได้ข่าวว่าอีก 3-4 วันมาถึงหนองแขม ว่าแต่ว่าคุณล่ะครับ? คงไม่ต้องขนของหนีน้ำเนอะ อยู่สูงออก :)

    ตอบลบ
  2. ไ่ม่ได้เป็นโรคกลัวน้ำ เลยไม่ต้องหนีค่ะ :P ล้อเล่น จริงๆแล้วอยู่สูงนั่นละคะเหตุผล ที่กลัวตอนนี้คือ กลัวไม่มีอะไรกินมากกว่า T^T

    สำหรับหนังเรื่องนี้ สนุกดีค่ะ อมยิ้มได้ทั้งเรื่องเลย ;)

    ตอบลบ
  3. อ่อฉีดยาแล้วนี่เอง แว๊ก อิอิ
    นั่นสิครับ สะสมเสบียงกรังด่วน โดยเฉพาะน้ำ แต่ก็หวังว่าคุณจะไม่เจอผลกระทบหนักมากนะครับ เป็นห่วงๆ :)

    ตอบลบ