วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555
The Skin I live In (2011) : แนบเนื้อคลั่ง
The Skin I live In (2011)หนังเสปน (Original title :La piel que habito)
ความยาว 117 นาที ประเภท Drama | Thriller เรตติ้ง IMDb 7.6
ผู้กำกับ : Pedro Almodóvar
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Pedro Almodóvar (screenplay), Agustín Almodóvar (collaboration)
ดารานำแสดง : Antonio Banderas, Elena Anaya and Jan Cornet --
ฉันเพิ่งดูหนังเรื่องนี้จบหมาด ๆ ด้วยอารมณ์เหวอ -_- ก่อนจะเขียนถึงหนัง ขอบ่นนิดนึงสำหรับชื่อภาษาไทย ตั้งได้ @%%@&&#$#$% มาก จริงๆ แล้วฉันมองผ่านหนังเรื่องนี้ไปหลายรอบ เพราะเห็นชื่อภาษาไทยนี่แหล่ะ เห็นชื่อแล้วคิดไม่ใช่เรื่องเดียวกัน เลยมองผ่านไปทั้งๆ คิดอยากดูตั้งแต่หนังเข้าฉายใหม่ๆ ตั้งชื่อเสียอย่างกับหนังประโลมโลกย์เรทอาร์อะไรทำนองนั้น
กลับมาที่หนังต่อ บอกตรงๆ ว่าดูจบแล้วเพลีย เพลียจิตอย่างแรง นับว่าเป็นพล๊อตเรื่องที่แปลกแหวกแนวอย่างยิ่ง จากที่ดูจบฉันสรุปเองเองว่าตัวละครทุกตัวล้วนบ้าทั้งเรื่อง แถมฉันก็บ้าด้วยที่อุตส่าห์นั่งดู 555 ไม่ใช่ว่าหนังไม่สนุก หรือไม่คุ้มค่าแก่การดูนะ เดี๋ยวจะหาว่าฉันตัดสินว่าหนังไม่ดี และเผื่อคนที่ยังไม่ได้ดูมาอ่านจะพาลไม่อยากดูไปเสีย จริงๆ แล้วเป็นหนังที่พล๊อตแปลกหายากที่เดียว ให้อารมณ์ระทึกขวัญได้เป็นอย่างดี
ป้ายกำกับ:
หนังสเปน
,
Drama
,
Pedro Almodóvar
,
Thriller
วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555
The Woman in Black (2012) : ชุดดำสัญญาณสยอง
The Woman in Black (2012)
ความยาว 95 นาที ประเภท Drama | Horror | Thriller เรตติ้ง IMDb : 6.6
ผู้กำกับ : James Watkins
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Susan Hill (นวนิยาย), Jane Goldman (เขียนบท )
ดารานำแสดง : Daniel Radcliffe, Janet McTeer และ Ciarán Hinds
หนังเรื่องนี้สร้างเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกถูกนำมาสร้างในชื่อเดียวกัน เป็นภาพยนต์ออกฉายทางทีวีในปี 1989 ซึ่งในครั้งนั้นมีเรตติ้งการตอบรับของผู้ชมค่อนข้างดีมาก และในปีนี้ถูกนำมาสร้างอีกครั้งโดยมีพระเอกหนุ่มหน้ามนที่เคยโด่งดังจากภาพยนต์ชุดแฮรี่ พอตเตอร์นั่นเอง
the woman in black เป็นเรื่องราวของวิญญาณที่มีความพยาบาท อาฆาตแค้นแรงกล้ามาก และพลังความแค้นนี้ก่อให้เกิดเรื่องราวมากมายในหมู่บ้านที่เธอเคยอาศัย ในความเห็นของฉัน ในเวอร์ชั่นนี้คุมโทนแสง เสียงได้ดีมาก สามารถทำให้สะดุ้งตกใจได้เป็นระยะๆ ทีเดียว
ป้ายกำกับ:
Drama
,
Horror
,
James Watkins
,
Period
,
Thriller
Air Doll (2009) หัวใจลม ไม่แล้งรัก
Air Doll(2009)
หนังญี่ปุ่น (Original title -Kûki ningyô
ความยาว 125 นาที ประเภท Drama | Fantasy เรตติ้ง Imdb : 7.0
ผู้กำกับ : Hirokazu Koreeda
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Yoshiie Goda (การ์ตูน), Hirokazu Koreeda (เขียนบท)
ดารานำแสดง : Doona Bae, Arata และ Itsuji Itao --
หนังเรื่องนี้มีคนพูดถึงกันมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา และฉันก็ฟังผ่านๆ ไม่คิดจะหามาดูแต่อย่างใด จนกระทั่่งเมื่อวานฉันเพิ่งได้ดู โดยที่ไม่ได้ตั้งใจดูอะไร แค่รู้สึกอยากดูขึ้นมาเฉยๆ อย่างนั้น แม้ว่าการดำเนินเรื่องราวจะเหมือนภาพยนต์ญี่ปุ่นเรื่องอื่นๆ ที่เล่าไปอย่างเอื่อยๆ เรื่อยๆ แต่กลับไม่ทำให้ฉันรู้สึกเบื่อหน่าย สามารถติดตามเรื่องราวอย่างอยากรู้อยากเห็นว่าสุดท้ายเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร
ต้องบอกว่าเป็นการนำเสนอที่แปลกทีเดียวในการตีแผ่ความเป็นมนุษย์ เพราะนำเสนอโดยสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ และอาจจะเ็ป็นแบบนี้เองที่ทำให้เราเข้าใจมนุษย์ได้ดีขึ้น เพราะการถอดตัวเองออกไปสวมตัวตนอื่น และมองกลับมาจุดที่เราเคยยืนอยู่ ก็อาจจะทำให้เราได้เห็นชัดเจนขึ้นว่าแท้จริงแล้ว มนุษย์อย่างเราน่ะ เป็นอย่างไรกันแน่ โดยภาพยนต์เรื่องนี้ใช้มุมมองจาก "ตุ๊กตายาง" ซึ่งปกติเราจะคิดว่ามันไม่มีชีวิตจิตใจ และใช้มันเป็นที่ระบายอารมณ์ หรือในแง่หนึ่งคือ ใช้มันระบายด้านมืดของมนุษย์ออกมาเพียงเท่านั้น
ป้ายกำกับ:
หนังญี่ปุ่น
,
Drama
,
Fantasy
,
Hirokazu Koreeda
Mirror Mirror (2012): จอมโจรสโนว์ไวท์ กับราชินีบานฉ่ำ
Mirror Mirror (2012)
ความยาว 106 นาที ประเภท Adventure | Comedy | Drama
เรตติ้ง IMDb 5.6
ผู้กำกับ : Tarsem Singh
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Jason Keller , Marc Klein
ดารานำแสดง : Lily Collins, Julia Roberts และ Armie Hammer
---
ก่อนอื่นต้องขอบคุณโลกนี้มีที่หนัง ฉันเคยพูดประโยคนี้มาก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังบางครั้งที่หลงลืมมันไป ที่ฉันยกประโยคนี้ขึ้นมาอีกครั้งเพราะว่า อยากตอกย้ำตัวเองว่า แม้ในช่วงเวลาที่แย่ๆ ถ้าหากได้ดูหนังดีๆ สักเรื่อง มันช่วยให้ชีวิตสดใสขึ้นจริงๆ
สำหรับคนที่เชื่อเรตติ้ง IMDb อาจจะมีความเห็นแย้งกับฉันว่า เอ๋ ถ้าหนังดีจริง ไหง เรตติ้งต่ำเตี้ยซะขนาดนี้ ซึ่งบอกตามตรงว่าฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าๆ รู้แต่ว่าบางทีหนังดีก็อาจจะใช่หนังรางวัลนะ แค่ทำให้เรามีความสุข ทำให้เรารู้สึกดีกับชีวิต นั่นก็น่าจะเรียกได้ว่า เป็นหนังที่ดีแล้วสำหรับฉัน
สไนว์ไวท์ เจ้าชาย แม่มด และคนแคระทั้ง 7 เป็นเทพนิยายที่เราได้ฟังกันมาตั้งแต่ยังเด็ก เป็นเทพนิยายที่ยังคงตราตรึงใจผู้คนมาทุกยุคทุกสมัย อาจเพราะเราทุกคนยังมีความเป็นเด็กซ่อนอยู่ลึกๆ ภายในหัวใจ แม้ร่างกายเราจะเติบโต และหัวใจเราถูกสภาำพแวดล้อม สังคม บังคับให้เติบโต ให้รับผิดชอบ ให้วิ่งวุ่น แข่งกับเวลา และส่งผลให้ต้องเคร่งเครียดกับชีวิตก็ตาม
และด้วยหัวใจที่ซุกซ่อนความเป็นเด็กไว้นี้เอง ทำให้เทพนิยายเรื่องนี้จึงยังขายได้อยู่เสมอ ในช่วงปีนี้มีการนำเทพนิยายเรื่องนี้มาดัดแปลงใหม่อยู่ 2 เวอร์ชั่น ซึ่งได้ยินว่าค่อนข้างแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านโทนเรื่องและการนำแสดง
วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555
The Artist (2011) : บรรเลงฝัน บันดาลรัก
หนังฝรั่งเศส ความยาว 100 นาที ประเภท Romance | Comedy | Drama เรตติ้ง IMDb 8.2
ผู้กำกับ : Michel Hazanavicius
เนื้อเรื่อง /เขียนบท : Michel Hazanavicius
ดารานำแสดง : Jean Dujardin, Bérénice Bejo และ John Goodman --
สำหรับฉันนี่เป็นหนังดีที่สุดที่ดูมาในรอบปีนี้ เพราะหลังจากดูจบมันทั้งอิ่ม ทั้งตราตรึง อลังการ ฯลฯ ควรค่ากับรางวัลและเสียงชมที่ตอบรับจริงๆ เชื่อคอหนังต้องไม่พลาดชมแน่ๆ หรือถ้าใครพลาดชม เพราะเพียงแค่คิดว่าเป็นหนังขาวดำธรรมดา ขอให้ทบทวนใหม่ ให้เวลาดูนิดนึงแล้วคุณจะรู้สึกว่าคุ้มค่ากับการจ่ายเวลา 100 นาทีนี้
หนังเรื่องนี้เปิดตัวออกมาพร้อมๆ กับภาพยนต์อีกเรื่องคือ HUGO แม้จะมีคอนเซปต์เดียวกันในแง่แนวคิดที่มุ่งเชิดชูคนทำหนัง แต่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในด้านการนำเสนอ ฉันได้ชมภาพยนต์เรื่อง HUGO ก่อน แม้จะประทับใจในด้านโปรดักชั่น แต่กลับไม่ได้รู้สึกอินไปกับเรื่องของการให้ความสำคัญผู้สร้างหนังใบ้ในยุคแรกๆ อย่างที่หนังเน้นนัก อาจจะเป็นด้วยภาพยนต์เรื่อง HUGO นั้นมีประเด็นเกี่ยวเรื่องเด็กและการผจญภัยเข้ามาทำให้เบี่ยงเบนความสนใจของฉันไปมุ่งเน้นเรื่องอื่นแทน
สำหรับ The Artist นี้แตกต่างกัน เพราะไม่ว่าหนังจะสอดแทรกประเด็นเรื่องความรัก ดราม่า ตลก อะไรเข้ามาก็ตาม แต่เมนหลักของเรื่องอยู่ที่วงแวดภาพยนต์ ที่สื่อให้เราเห็นวิวัฒนาการตั้งแต่หนังใบ้ จนมาถึงยุคใหม่เริ่มใช้เสียงพูดเข้ามา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม ย่อมส่งผลต่อผู้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ไม่มากก็น้อย คนที่ปรับตัวได้ก็จะอยู่ได้ ส่วนผู้ที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงแน่นอนว่าต้องได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหนังแสดงให้เราเห็นถึงข้อนี้ได้อย่างกระแทกใจ
ป้ายกำกับ:
หนังฝรั่งเศส
,
Comedy
,
Drama
,
Michel Hazanavicius
,
Romance
The Lady (2011): อองซานซูจี ผู้หญิงท้าอำนาจ
The Lady (2011)
ความยาว 132 นาที ประเภท Biography | Drama เรตติ้ง IMDb : 6.8
ผู้กำกับ : Luc Besson
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Rebecca Frayn
ดารานำแสดง : Michelle Yeoh, David Thewlis และ Jonathan Raggett --
เชื่อว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่หลายคนรอคอย ไม่ว่าจะเป็นคอประวัติศาสตร์ คอหนัง หรือแฟนคลับของมิเชล โหย่ว และฉันเป็นทั้ง 3 อย่างเลย จึงพลาดไม่ได้ในการรอชมภาพยนต์เรื่องนี้ ซึ่งระหว่างรอก็ได้ชมตัวอย่างที่ตัดต่อได้อย่างอลังการงานสร้างมากๆ ดูขลัง และมีพลังอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้ดารานำที่มีใบหน้าท่าทางเหมือนตัวจริงด้วยแล้วยิ่งส่งเสริมให้ดูมีพลังเข้าไปกันใหญ่
ทุกคนคงคาดหวังว่าหนังอาจจะเล่าเรื่องราวชีวิตในของอองซานซูจีในด้านที่เราๆ ไม่รู้กัน (หมายถึงในแง่การเมืองของพม่า) แต่เอาเข้าจริงแล้ว หนังไม่ได้เล่าเพิ่มจากเดิมที่เราๆ ล้วนรู้กันนัก ถ้าหากอยากรู้เรื่องการเมืองพม่าอย่างที่หนังเล่า เราสามารถเสิร์ชกูเกิ้ลหาอ่านได้ แถมอาจจะรู้มากกว่าหนังเล่าเสียอีก .. แต่หนังเล่าให้เรามองเห็นมิติชีวิตด้านอื่นๆของเธอ ในแง่ของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีบทบาทในฐานะลูกสาว เมีย และแม่
Beginners (2010) :พ่อผม..แอ๊บแมน
ความยาว 105 นาที ประเภท Comedy | Drama | Romance เรตติ้ง IMDb :7.2
ผู้กำกับ : Mike Mills
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Mike Mills
ดารานำแสดง : Ewan McGregor, Christopher Plummer และ Mélanie Laurent --
ที่จริงฉันเล็งหนังเรื่องนี้ไว้นานล่ะ ไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี สนุกหรือไม่สนุก รู้แต่ว่าอยากดูเพราะองค์ประกอบหลายๆ อย่างของหนังเรื่องนี้มันเจ๋งดี เริ่มจากโปสเตอร์เลย แบบนี้เรียกว่า less is more ได้หรือเปล่า ไม่ต้องเยอะ แต่ดึงดูด รวมถึงพล๊อตเรื่องที่เก๋กู๊ด ยิ่งพอได้ดูจริงๆ ฉันตกหลุมรักตัวละครหลายๆ ตัวในเรื่องนี้เลยก็ว่าได้
ก็พล๊อตเรื่องมันเจ๋งน่ะ มันน่าคิดนะว่าถ้าเป็นคุณ คุณจะรู้สึกยังไงถ้าหากวันหนึ่งคุณพ่อในวัย 75 ลุกขึ้นมาบอกว่า "พ่อจะเป็นเกย์ละนะ" คงอึ้งใช่ไหม แล้วยังไงต่อ จะรับมือยังไงดี จะยอมรับแล้วปล่อยให้ท่านใช้ชีวิตช่วงที่เหลือซ่าส์หาประกาศหาคู่ในหน้าหนังสือพิมพ์เหมือนที่ตัวละครให้หนังเรื่องนี้ทำ หรือต่อต้านให้สติท่านว่าบั้นปลายชีวิตแล้วนะสมควรเข้าวัดเข้าวาดี -_-''
วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555
The Ides Of March (2011) : การเมืองกิน(จิตวิญญาณ)คน
The Ides of March (2011)
ความยาว 101 นาที ประเภท Drama เรตติ้ง IMDb 7.3
ผู้กำกับ : George Clooney
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : George Clooney (screenplay), Grant Heslov (screenplay)
ดารานำแสดง :Ryan Gosling, Paul Giamatti, George Clooney,Evan Rachel Wood และ Philip Seymour Hoffman --
อำนาจ ชื่อเสียง และเงินทองไม่เข้าใครออกใคร หนังเรื่องนี้จะทำให้เราเห็นสัจธรรมข้อนี้ได้ชัดขึ้น ก่อนอื่นต้องยอมรับก่อนว่าเป็นหนังที่เกี่ยวกับวงการเมือง แล้วทำออกมาดูสนุก ไม่น่าเบื่อ คงต้องชมฝีมือการเขีียนบท และกำกับของคลูนี่ย์ นอกจากนั้นยังได้ดาราชั้นเยี่ยมที่เราชื่่นชอบหลายๆ คนมาร่วมแจมอีกด้วย ส่งผลให้หนังเรื่องนี้ขึ้นแท่นเป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องหนึ่ง
ปกติฉันเป็นคนที่สนใจการเมืองแต่เพียงผิวเผิน การเลือกหนังเรื่องนี้มาชมเพราะพ่อหนุ่มไรอัน กอสลิ่งเป็นเหตุผลหลัก จะว่าไปแล้วถ้าคุณดูจากโปสเตอร์หนังก็คงคิดเหมือนกันใช่ไหมว่า ต้องเป็นหนังแนวซีเรียสแน่ๆ ปกติชีวิตก็เครียดพอล่ะ ไม่ค่อยอยากดูหนังเครียดๆ สักเท่าไหร่ ดูจากเครดิตของกอสลิ่งที่เลือกหนังแสดงในช่วงนี้พอทำให้วางใจได้ระดับหนึ่งว่า น่าจะดีพอ ซึ่งพอได้ดูก็พูดได้เลยว่า ดีกว่าที่คิดเยอะเลยล่ะ
เรื่องราวในหนังเป็นเรื่องเกี่ยวกับแวดวงของทีมหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี แน่นอนว่ามี 2 ฝ่ายที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด และแน่นอนว่าเพื่อชัยชนะพวกเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง เพราะชัยชนะในครั้งนี้จะส่งผลต่ออนาคตข้างหน้าอีกด้วย ดังนั้นจึงต้องงัดเอาทั้งเล่ห์กลทั้งหลายมาใช้อย่างสุดฝีมือ และมันส่งผลเปลี่ยนวิถีคิดของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งกระโจนเข้าสู่วงการนี้ไปตลอดกาล
Sleeping Beauty (2011): อย่าปล่อยรัก ให้หลับไหล
ความยาว 101 นาที ประเภท Drama เรตติ้ง IMDb 5.3
ผู้กำกับ : Julia Leigh
เขียนบท : Julia Leigh
ดารานำแสดง : Emily Browning, Rachael Blake และ Ewen Leslie --
ไม่อยากจะบอกว่าคนส่วนใหญ่ดูหนังเรื่องนี้เพราะโปสเตอร์ ฮ่าๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ดูจนจบต่างบ่นกันว่า อะไรของมันวะ เพราะมันเป็นหนังที่ดูยากจริงๆ แหล่ะ โชคดีที่เรื่องนี้ฉันไปหาข้อมูลอ่านมาก่อนที่จะดู เลยไม่คาดหวังอะไรมาก ดูให้เข้าใจตัวละครและภาพรวมๆ เท่านั้น และอีกอย่างคือ ไม่พยายามไปตีความอะไรทั้งสิ้น เพราะมันจะปวดหัว (จริงๆ นะ)
หนังเรื่องนี้เขาว่ากันว่า ผู้กับกับเธอติสต์มากพยายามจะสอดแทรกปรัชญาหรือแนวคิดอะไรบางอย่างไปกับเรื่องราว โดยใช้การส่งสารผ่านเรื่องราวที่ล่อแหลม ทำให้แม้จะมีฉากเปลือยเยอะ(มาก) แต่ก็ไม่รู้สึกโป๊อะไรนะ (ในความเห็นของฉัน) อย่างน้อยฉากโป๊เปลือยก็ไม่ทำให้ก่อเกิดอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น อาจจะเพราะผู้กำกับไม่ได้ส่งสัญญาณแบบนั้นก็ได้ ภาพโป๊เปลือยที่เห็นมันเลยไม่ได้สื่อเรื่องกามารมณ์เท่าไหร่ เพราะฉะันั้นคนที่กลัวว่าหนังจะโป๊มากจนรับไม่ได้ สบายใจได้ ส่วนคนที่หวังจะมาดูนางเอกของเราโป๊ก็พอไหวอยู่นะ :P
My Week with Marilyn (2011): 7 วัน...แล้วคิดถึงกันตลอดไป
My Week with Marilyn (2011) :
ความยาว 99 นาที ประเภท Biography | Drama | History เรตติ้ง IMDb 7.1
ผู้กำกับ : Simon Curtis
เนื้อเรื่อง/เขียนบท: Adrian Hodges (เขียนบท), Colin Clark (บทประพันธ์)
ดารานำแสดง : Michelle Williams, Eddie Redmayne และ Kenneth Branagh ---
คงไม่มีใครไม่รู้จักดาราสาวเซ็กซี่แห่งวงการฮอลีวูด มารีลิน มอนโรว์ ภาพของหญิงสาวผมบลอนด์หุ่นสวยงามด้วยส่วนโค้งเว้าชัดเจนยืนกระโปรงเปิด ยังอยู่ในใจใครหลายคน แต่ทว่านอกจากภาพของหญิงสาวเซ็กซี่แล้ว ใครจะรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นเช่นไร ฉันเองก็เช่นกัน ดังนั้นการได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ ทำให้เหมือนได้รู้สึกตัวตนจริงๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้รูปร่างและท่าทียั่วยวนนั้น
ภาพยนต์เรื่องนี้สร้างจากหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า The Prince and the Showgirl. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ colin clark ผู้เขียนได้มีโอกาสใกล้ชิด และได้เห็นชีวิตบางมุมที่น้อยคนจะได้สัมผัสของสุดยอดเซ็กซิมโบลหญิงแห่งวงการฮอลีวูดขณะนั้น ซึ่งก็คือ มารีลิน มอนโรว์นั่นเอง
ป้ายกำกับ:
Biography
,
Drama
,
History
,
Simon Curtis
Old Boy (2003) : เคลียร์บัญชีแค้นจิตโหด
Old Boy (2003) เคลียร์บัญชีแค้นจิตโหด
หนังเกาหลี :Oldeuboi (original title)
ความยาว 120 นาที ประเภท Drama | Mystery | Thriller เรตติ้ง IMDb :8.4
ผู้กำกับ : Chan-wook Park
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Garon Tsuchiya (story), Nobuaki Minegishi (comic)
ดาราำนำแสดง : Min-sik Choi, Ji-tae Yu and Hye-jeong Kang --
"เวลาคุณหัวเราะ โลกจะหัวเราะไปกับคุณ แต่เวลาคุณร้องไห้ ... ก็ร้องไปคนเดียวสิ" ประโยคนี้เป็นวรรคทองของหนังเรื่องนี้ที่ฉันชอบ และดูว่ามันจะสื่อถึงเรื่องราวชีวิตของตัวละครในเรื่องได้เป็นอย่างดี อาจจะฟังดูออกแนวคิดแง่ลบไปสักหน่อย แต่มันก็เป็นความจริง เพราะว่าเวลาคุณทุกข์ไม่มีใครจะมาทุกข์กับคุณด้วย อาจจะมีคนปลอบใจคุณในช่วงแรก แต่สักพักคุณก็ต้องลุกขึ้นด้วยตัวเอง
Old Boy ได้รับคำนิยมเป็นอย่างมากว่าเป็นหนังดี ที่ดูสนุก ซึ่งถ้าหากมองจากโปสเตอร์หนังอาจจะดูไม่ค่อยน่าเชื่อว่าจะสนุกเท่าไหร่ แต่ถ้าลองให้เวลานั่งดูจนจบ ฉันเชื่อว่าทุกคนจะอึ้งเหมือนกันกับฉัน เพราะมันทั้งเข้มข้น ตื่นเต้น ลุ้นระทึก และกระแทกความรู้สึกกับการหักมุมในประเด็นที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้มีหลายมิติมาก ครบทุกรสจริงๆ ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ แต่ละมิติของหนังมันเชื่อมโยงกันอย่างหักมุมชนิดคนดูทำใจแทบไม่ได้ คุณจะรับรู้ด้วยตัวเองเมื่อได้ชมหนังเรื่องนี้ ขอบอกว่าเป็นหนึ่งในหนังที่ "ห้ามพลาด" ถึงคุณจะไม่เชื่อคะแนนที่ IMDb ให้ แต่ขอให้เฉลียวใจสักนิดว่าทำไมมันถึงได้คะแนนนำโด่งไปเสียขนาดนั้น >.<
ป้ายกำกับ:
หนังเกาหลี
,
Chan-wook Park
,
Drama
,
Mystery
,
Thriller
วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555
Reign Of Assasin (2010) : นักฆ่าดาบเทวดา
Reign of Assasin (2010)
หนังฮ่องกง :Jianyu -original title
ความยาว 117 นาที ประเภท Action | Romance เรตติ้ง IMDb 6.8
ผู้กำกับ : Chao-Bin Su
เนื้อเรื่อง/เขียนบท: Chao-Bin Su
ดารานำแสดง : Michelle Yeoh, Woo-sung Jung and Kelly Lin --
ฉันสังเกตตัวเองว่าเป็นคนชอบการค้นหนังเก่าๆ มานั่งดู แล้วถ้าหากว่ามันสนุกด้วยแล้วยิ่งรู้สึกปลื้มเป็นพิเศษ มันคงเหมือนกับเด็กที่ไปคุ้ยของเล่นเก่่าๆ ที่คนอื่นเค้าทิ้งแล้ว หรือไม่ก็ไม่เห็นค่า เพราะมัวแต่ไปชื่นชมของเล่นใหม่ๆ พอได้เจอของชิ้นไหนที่มีค่าก็เลยรู้สึกเหมือนกับว่าได้ค้นพบอะไรบางสิ่งที่คุ้มค่าประมาณนั้น
หนังฮ่องกงเรื่องนี้ฉันเห็นมันผ่านหูผ่านตามานาน แต่ไม่เคยที่จะสนใจเปิดดู พอวันนี้ได้ลองเปิดดูรู้สึกสนุกมากๆ ทำให้นั่งดูไปจนจบเรื่อง ไม่พอดูจบแล้วยังมีแรงบันดาลใจให้มาเขียนไว้ที่นี่เพื่อที่จะเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ อีกด้วย
หนังเรื่องนี้เป็นหนังฮ่องกงที่ใช้บรรยากาศยุคจอมยุทธโบราณที่ต่างศึกษาวิทยายุทธ์ และท่องยุทธภพ เป็นเรื่องราวหักเหลี่ยมเฉือนคม มีหักมุมในตอนท้ายให้ลุ้นกันอีกด้วย ที่ฉันชอบเป็นพิเศษคือมีเรื่องราวของความโรแมนติกเข้ามาร่วมด้วยทำให้หนังมีครบทุกรสชาติ ฉันเองซึ่งเป็นคอนักอ่านนวนิยายกำลังภายใน จึงชอบเรื่องราวเหล่านี้เป็นพิเศษ
(500) Days of Summer (2009) : คนที่ใช่เมื่อไหร่จะเจอ
(500) Days of Summer (2009)
ความยาว 95 นาที ประเภท Comedy | Drama | Romance เรตติ้ง IMDb 7.9
ผู้กำกับ : Marc Webb เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Scott Neustadter, Michael H. Weber
ดารานำแสดง : Zooey Deschanel, Joseph Gordon-Levitt and Geoffrey Arend ---
--
หนังเรื่องนี้ฉันได้ยินคนรักหนังด้วยกันพูดถึงมานาน แต่ก็ยังไม่ีมีเวลาและอารมณ์ดู เพราะคิดว่าเป็นหนังรักธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องบอกว่าอารมณ์ของฉันในระยะนี้ไม่เหมาะกับการดูหนังรักนัก อนุมานว่าเข้าใกล้วัยทองนั่นเอง ฮ่าๆ เลยนิยมดูแต่หนังดราม่าเป็นหลัก หนังเกี่ยวกับความรักต้องเว้นวรรคสักระยะ
ประเหมาะเคราะห์ดีวันนี้ฉันลาป่่วยอยู่บ้านเลยคว้ามาเปิดดูไปพลางๆ เริ่มต้นก็เปิดตัวหนังได้แนวดี มิน่าคอหนังอินดี้ทั้งหลายถึงหลงรักหนังเรื่องนี้กันหัวปักหัวปำ :P เพราะหนังเล่าเรื่องได้แหวกแตกต่างจากหนังรักฮอลีวูดส่วนใหญ่ ที่จะใช้มุมมองเอนเอียงไปทางฝ่ายนางเอกเสียเป็นส่วนใหญ่ (ฉันเดาว่าเป็นเพราะกลุ่มลูกค้าหนัีงแนวนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ผู้กำกับเลยต้องใช้มุมมองที่ผู้ชมจะได้รู้สึกอินง่ายๆ )
แต่หนังเรื่องนี้ เล่าจากมุมมองของผู้ชายที่มองเรื่องราวความรัก และชีวิตรักของตัวเอง แถมผู้กำกับยังมีการใช้เสียงบรรยายแทรกเป็นระยะๆ ด้วย ฉันอ่านเจอบางคนบอกว่า การที่ผู้กำกับทำแบบนี้เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกว่า นี่มันหนังนะว้อย คุณกำลังดูหนังอยู่ กลับมาๆๆ อย่าอินมาก ฮ่าๆ ไม่รู้จริงไหม แต่ฉันก็ว่ามันเวิร์คอยู่นะวิํีธีนี้
กลับมาที่เรื่องราวในหนัง เป็นเรื่องที่เล่า 500 วันของความรักหญิงชายคู่หนึ่ง เริ่มต้นกันตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 500 ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องราว 500 วันนี้มีครบทุกรสชาดของความรัก ที่บางครั้งก็เปรี้ยวดั่งมะนาว บางครั้งก็หวานปานน้ำผึ้ง และก็ต้องยอมรับด้วยว่าบางครั้งมันขมดั่งบอระเพ็ด..
วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555
Faces in the Crowd (2011)
Faces in the Crowd (2011)
ประเภท Crime | Drama | Mystery เรตติ้งจาก IMDb 5.5
ผู้กำกับ : Julien Magnat เขียนบท : Julien Magnat , Kelly Smith
ดารานำแสดง : Milla Jovovich, Julian McMahon และ David Atrakchi ---
ฉันเป็นแฟนหนังของมิลา โจโววิชมานาน จึงไม่พลาดที่จะดูหนังของเธอทุกเรื่อง และเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน เป็นธรรมดาอยู่ว่าก่อนดูหนังเรื่องอะไรฉันจะต้องเช็คคะแนนจาก IMDb เวปโปรดเสียก่อน นัยว่าเพื่อเสริมความมั่นใจว่า เราเลือกหนังได้ไม่พลาด (แม้ว่าคะแนนจะวัดผล 100% ไม่ได้ว่า คะแนนเยอะหนังจะดี หรือหนังจะโดนเราหรือเปล่าก็ตาม) เช่นเดียวกันกับหนังเรื่องนี้ เห็นคะแนนแล้วใจแป่วเล็กน้อย >.< ว่าหนังอาจจะดูไม่สนุกเท่าไหร่ แต่พอได้ชมด้วยตัวเองกลับกลายเป็นว่า ชอบอ่ะ สนุกใช้ได้เลยนะ
สำหรับการแสดงของมิล่าในเรื่องนี้ เธอดูสวยทั้งเรื่อง แม้ว่าจะเป็นหนังสืบสวนสอบสวน ระทึกขวัญสักหน่อย แต่เธอก็รักษาลุคไว้ได้ตลอดเรื่อง สวย ดูดีทีเดียว (ไม่ดูแก่เหมือนบางเรื่อง :P ไม่ต้องพูดถึงฝีมือการแสดงของเธอที่สอบผ่านฉลุยอยู่แล้ว เมื่อนั่งดูไปจนถึง end title ก็ได้เห็นว่าเธอมีส่วนร่วมในเบื้องหลังภาพยนต์เรื่องนี้ด้วย ดูท่่าว่าในอนาคตเราอาจจะเป็นผู้กำกับหญิง หรือ ผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนต์ดีๆ อย่างเธอก็ได้ ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะเธอมีสามีเป็นผู้กำักับฝีมือดีอยู่แล้ว
Children of the Corn: Genesis (2011)
Children of the Corn: Genesis (2011)
ประเภท Horror | Thriller เรตติ้งจาก IMDb 3.9
ผู้กำกับ: Joel Soisson
เขียนบท : Joel Soisson (screenplay)
ดารานำแสดง : J.J. Banicki, Dusty Burwell and Kai Caster --
หลังจากที่ดองไว้นาน ก็ถึงเวลาหยิบมาดู >.< โดยพยายามไม่คาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้ ก็อ่ะนะ หนังที่รีเมคมาเป็นสิบๆ ภาค (เว่อไปป่าวไม่รุ พูดให้มันดูเยอะๆ เ้ข้าไว้ ก็มันเยอะจริงๆนี่นา แต่ฉันไม่เคยไปนับจริงๆนะว่าเกินสิบหรือเปล่า) ภาคหลังๆ โอกาสที่จะดูสนุกเท่าภาคแรกๆ มี % น้อยจริงๆ
สาเหตุที่พล๊อตเรื่องของเด็กๆ ในทุ่งข้่าวโพดถูกนำมาสร้างหลายครั้งหลายครั้ง ด้วยสาเหตุว่า ฝีืมือการเขียนนวนิยายของสตีเฟน คิงนั้น เรียกว่าขั้นเทพในประเภทนวนิยายสยองขวัญ สั่นประสาท หลอน และพล๊อตเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน เรียกว่าได้ชื่อของสตีเฟน คิงยังขายได้อยู่ จึงถูกนำมาสร้างแล้วสร้างอีกไม่จบไม่สิ้น
Don't Be Afraid of the Dark (2010)
ความยาว 99 นาที ประเภท Horror | Thriller เรตติ้งจาก IMDb 5.6
ผู้กำกับ : Troy Nixey
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Guillermo del Toro , Matthew Robbins
ดารานำแสดง : Katie Holmes, Guy Pearce และ Bailee Madison --
ฉันเพิ่งได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้ ด้วยว่าอารมณ์ช่วงนี้อยากดูหนังสยองขวัญสั่นประสาทเป็นพิเศษ ความจริงแล้วหนังเรื่องนี้ดูจากตัวอย่าง (trailer) นั้นดูไม่น่าจะสนุกอะไร แถมกระแสก็ออกมาไม่ค่อยดี อาจจะเป็นด้วยเหตุที่ว่า หนังที่ถูกนำมารีเมคมักจะถูกตั้งประมาสไว้ล่วงหน้าว่า "ไม่สนุก" "สู้ของเดิมไม่ได้" เสียเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง แต่เมื่อฉันได้ชมด้วยตัวเอง ขอบอกว่า บางทีการที่คิดไปก่อนว่าไม่สนุกเนี่่ย มันก็มีข้อดีเหมือนกันนะ เพราะหลังจากที่ฉันดูจบบอกได้ว่า หนังไม่แย่เท่าไหร่นะ สนุกพอสมควรเลย
พูดถึงหนังเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1973 โดยถูกสร้างเป็นภาพยนต์สำหรับฉายทางทีวี ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่เมื่อถูกนำมาสร้างใหม่ในปี 2010 นี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องบางส่วน โดยเพิ่มตัวละครเด็ก และเรื่องราวที่เกี่่ยวกับตำนานการจับตัวเด็กเข้ามา ซึ่งก็ทำให้หนังดูมีมิติที่น่ากลัวเพิ่มขึ้น
วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555
The Help (2011) : เจ้านายตัวดี กับสาวใช้ตัวดำ
The Help (2011) : เจ้านายตัวดี กับสาวใช้ตัวดำ ความยาว 146 นาที ประเภท Drama คะแนนจาก IMDb 8.0 ผู้กำกับ : Tate Taylor เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Tate Taylor (เขียนบท), Kathryn Stockett (นวนิยาย) ดารานำแสดง: Emma Stone, Viola Davis และ Octavia Spencer รางวัลที่ได้รับ : ชนะเลิศรางวัล Oscarและอื่นๆ 42 รางวัล,ได้รับการเสนอเข้าชิง 63 รางวัล --
ช่วงนี้ฉันได้มีโอกาสชมภาพยนต์หลายๆ เรื่อง แต่ภาพยนต์เหล่านั้นยังไม่สร้างแรงบันดาลใจให้มากพอที่จะลุกขึ้นมานั่งเขียนถึง เหมือนภาพยนต์เรื่องนี้ ที่พอได้ดูจบแล้วรู้สึกอยากเขียน อยากแบ่งปันให้กับทุกคนได้มีโอกาสชมกัน แม้ว่าจะเป็นภาพยนต์ดราม่าที่ดูอาจจะไม่บันเทิงสำหรับหลายๆคนนัก แต่ฉันเชื่อว่าเมื่อคุณๆ ได้ชมแล้ว ก็อาจจะรู้สึกเหมือนกันกับฉันที่อิ่มเอม เติมเต็ม สั่นสะเทือนและเกิดแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น
ภายนต์เรื่องนี้สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกัน ซึ่งได้รับรู้มาว่ากว่าจะถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือ ผู้เขียนต้องถูกปฏิเสธถึง 20 ครั้ง >.< แต่เธอก็ยังมีความเพียรพยายามส่งให้สำนักพิมพ์อื่นๆต่่อไปจนกระทั่งประสบความสำเร็จถูกตีพิมพ์ในที่สุด นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเห็นว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นจริงๆ เปรียบดังเช่นตัวละครหลักเรื่องนี้ที่บากบั่นฝ่าพันทำในสิ่งที่เชื่อ และพิสูจน์มันให้ชาวโลกได้รับรู้ถึงสิ่งที่เป็นความจริงที่อยู่เบื้องหลังของสิ่งที่ผู้คนในยุคนั้นพยายามมองผ่านไป
สมัครสมาชิก:
บทความ
(
Atom
)