วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554

The Princess and the Frog (2009) : เจ้าหญิงก้นครัว และเจ้าชายกบ


The Princess and the Frog (2009)
เรท :G ความยาว : 97 นาที ประเภท : - Animation | Family | Fantasy
ผู้กำกับ : Ron Clements, John Musker

เขียนบท : Ron Clements,John Musker
ดารานำแสดง (เสียง) : Anika Noni Rose,Keith David และ Oprah Winfrey
รางวัลที่ได้รับ : ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ 26 รางวัล & ชนะเลิศ 7 รางวัล ดูรายละเอียด

--
สมัย เรายังเป็นด็กผู้ใหญ่มักจะเล่าเรื่องเทพนิยายให้เราฟัง ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวของเจ้าชายเจ้าหญิง รวมถึงเรื่องนี้ด้วย "เจ้าชายกบ" เด็กๆ จินตนาการได้ถึงเรื่องราวที่มีสีสันสวยงาม ตระการตา เชื่อแน่ว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่ฝันอยากเป็นเจ้าชายเจ้าหญิงในเทพนิยายเหล่านั้น หรือไม่ก็ได้รับอิทธิพลของเรื่องราวเหล่านั้นให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจในยาม เติบโตขึ้น ฉันหยิบหนังเรื่องนี้มาดูอีกครั้งพร้อมหวนรำลึกถึงยามวัยเยาว์ ... ถามตัวเองว่า เรามีความฝันอะไรนะสมัยนั้น?

The Princess and the Frog เป็นเรื่องราวของหญิงสาวผิวสีธรรมดาๆ คนหนึ่ง ชื่อ เทียน่า แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาในตัวเธอคือ ความฝัน เธอเติบโตในครอบครัวชนชั้นแรงงานพ่อซึ่งเป็นผู้นำครอบครัวต้องทำงานหนักถึง 2 กะ เพื่อให้พอกับค่าใช้จ่าย ส่วนมารดานั้นทำงานเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าให้กับครอบครัวมหาเศรษฐี และนำเธอมาเลี้ยงขณะทำงานด้วย เทีียน่าจึงได้สนิทสนมเป็นเพื่อนเล่นกับชาล็อตลูกสาวเจ้าของบ้านที่มารดาทำ งานให้

หลังจากเลิกงานครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เทียน่าในวัยเยาว์ได้ฝึกฝนทำอาหารเมนูโปรดให้กับพ่อและแม่รับประทาน และยังแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้านอีกด้วย บิดามักพูดให้เทียน่าฟังว่า "รู้ไหมอาหารอร่อยๆ มันวิเศษตรงไหน ก็ตรงที่มันจะชักนำคนทุกชนชั้นมารวมตัวกัน ทำให้ทุกคนผ่อนคลาย และสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับใบหน้าผู้คนเหล่านั้น" คำพูดนั้นยิ่งตอกย้ำ ให้เทียน่าหมั่นฝึกฝนการอาหาร และมีความฝันที่จะเปิดร้านอาหารที่มีอาหารอร่อยๆ ไว้คอยต้อนรับผู้คน และทำให้ผู้มาเยือนมีความสุข

ในขณะที่เด็กๆส่วนใหญ่ ถูกสอนให้หมั่นอธิษฐานขอพรกับดวงดาว ขอให้ความปรารถนาทั้งหลายเป็นจริง บิดาของเทียน่ากลับสอนว่า "ดวง ดาวจะช่วยเราครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งหนึ่งเราต้องช่วยตัวเองด้วย โดยการทำงานหนัก และใช่แล้ว ลูกจะได้ในทุกสิ่งที่ปรารถนา ถ้าตั้งใจจริง"

ตั้งแต่ นั้นมาเทีียน่าทำงานหนักเป็นสองเท่าและเก็บหอมรอมริบทุกบาททุกสตางค์เพื่อ ที่ว่าจะได้มีร้านอาหารเป็นของตัวเองตามที่ฝันไว้ ... แต่แล้ววันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตเทียน่า นั่นคือ มีเจ้าชายต่างเมืองแวะมาเยือนเมืองนี้ เขาเป็นแขกพิเศษของเศรษฐีผู้เป็นบิดาของชาร์ลอตเพื่อนสนิทเทียน่า

เจ้า ชายนาวีน ผู้ซึ่งใช้ชีวิตอิสระเสรีไร้ความรับผิดชอบจนโดนครอบครัวตัดหางปล่อยวัด เขามาเมืองนี้เพื่อที่จะได้แต่งงานกับหญิงสาวผู้ร่ำรวยสักคน นั่นคือชาร์ล๊อต แต่ทว่ากลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้สิ่งที่เขาฝันไว้ล้มเหลวเมื่อได้พบกับ Dr. Facilier ชายผู้ใช้มนต์ดำทำสิ่งชั่วร้าย เขาเสกเจ้าชายหนุ่มให้เป็นกบ และพลอยให้ทำเทียน่ากลายเป็นกบไปด้วย กบทั้งสองจะต้องดั้นด้นเดินทางไปหาหญิงชราตาบอดอายุ 197 ปี นาม มาม่าโอดี้ เพื่อให้ช่วยเขาและเธอกลับคืนร่างเดิม...

ในระหว่างทาง ทั้งสองได้พบเจอเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อค้นหา "สิ่งจำเป็นของตัวเอง" โดยการช่วยเหลือของ เจ้าจรเข้เฒ่่า หลุยส์ ผู้รักการเป่าแซกโซโฟน,เรย์ หิ่งห้อยผู้หลงรักดวงดาว และผองเพื่อน

สำหรับฉันหนังเรื่องนี้สนุกกว่าที่คาดหวัง และยังมีข้อคิดดีๆ ที่สามารถนำมาใช้กับชีวิตได้อีกหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะ "วิธีมัดใจชายหนุ่มที่ดีที่สุด ผ่านท้องของเขา" ที่นางเอกเราพูด 555+ (สงสัยต้องไปหัดทำอาหารให้อร่อยเสียก่อน)

ดู หนังจบ ฉันได้คำตอบที่ถามตัวเองก่อนเริ่มดูหนังเรื่องนี้ ปรากฎว่าน่าตกใจ ว่าความฝันความจริงในปัจจุบัน มันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง อาจจะเป็นเพราะเมื่อก้าวสู่โลกแห่งความเป็นจริง ระหว่างทางเดินไปสู่ความฝันฉันเกิดความรู้สึกว่า ทำไมมันช่างยากเย็นนักหนา จึงล้มเลิกความฝันและทิ้งจินตนการทั้งหลายฝังไว้พร้อมกับเทพนิยายที่เคยอ่าน พร้อมบอกตัวเองว่า เทพนิยายเ็ป็นเรื่องหลอกเด็กเท่านั้น

วันนี้ฉัน ได้เรียนรู้แล้วว่าเทพนิยายหรือความฝันทั้งหลายนั้นเป็นจริงได้ แต่ว่าไม่สามารถได้มาด้วยการร้องขอต่อดวงดาวเพียงอย่างเดียว เหมือนที่บิดาของเนางเอกในการ์ตูนเรื่องนี้สอน เราสามารถสร้างทุกสิ่งได้ด้วยสองมือเรา ถ้าเปี่ยมด้วยจินตนาการ มุ่งมั่นและลงมือทำให้เต็มที่ ... อะไรๆ ก็เป็นไปได้ :)

--- Movie Trailer :

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น