วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Sleeping Beauty (2011): อย่าปล่อยรัก ให้หลับไหล


Sleeping Beauty (2011)
ความยาว 101 นาที ประเภท Drama เรตติ้ง IMDb 5.3
ผู้กำกับ : Julia Leigh
เขียนบท : Julia Leigh
ดารานำแสดง : Emily Browning, Rachael Blake และ Ewen Leslie --

ไม่อยากจะบอกว่าคนส่วนใหญ่ดูหนังเรื่องนี้เพราะโปสเตอร์ ฮ่าๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ดูจนจบต่างบ่นกันว่า อะไรของมันวะ เพราะมันเป็นหนังที่ดูยากจริงๆ แหล่ะ โชคดีที่เรื่องนี้ฉันไปหาข้อมูลอ่านมาก่อนที่จะดู เลยไม่คาดหวังอะไรมาก ดูให้เข้าใจตัวละครและภาพรวมๆ เท่านั้น  และอีกอย่างคือ ไม่พยายามไปตีความอะไรทั้งสิ้น เพราะมันจะปวดหัว (จริงๆ นะ)

 หนังเรื่องนี้เขาว่ากันว่า ผู้กับกับเธอติสต์มากพยายามจะสอดแทรกปรัชญาหรือแนวคิดอะไรบางอย่างไปกับเรื่องราว โดยใช้การส่งสารผ่านเรื่องราวที่ล่อแหลม ทำให้แม้จะมีฉากเปลือยเยอะ(มาก) แต่ก็ไม่รู้สึกโป๊อะไรนะ (ในความเห็นของฉัน) อย่างน้อยฉากโป๊เปลือยก็ไม่ทำให้ก่อเกิดอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น อาจจะเพราะผู้กำกับไม่ได้ส่งสัญญาณแบบนั้นก็ได้ ภาพโป๊เปลือยที่เห็นมันเลยไม่ได้สื่อเรื่องกามารมณ์เท่าไหร่  เพราะฉะันั้นคนที่กลัวว่าหนังจะโป๊มากจนรับไม่ได้ สบายใจได้ ส่วนคนที่หวังจะมาดูนางเอกของเราโป๊ก็พอไหวอยู่นะ :P

กลับมาที่เรื่องราวในหนังเรื่อง Sleeping Beauty เป็นเรื่องราวของลูซี่ ( Emily Browning) เด็กสาววัยแรกรุ่น เธอมีปัญหาครอบครัว ต้องส่งเสียตัวเองเรียนหนังสือ เช่าห้องเอง และต้องส่งเสียให้ทางบ้านด้วยส่วนหนึ่ง ทำให้เธอต้องทำงานหนัก เธอทำงานร้านกาแฟ เป็นพนักงานถ่ายเอกสาร เป็นอาสาสมัครให้แลบทดลองแห่งหนึ่ง และต้องดูแลชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอคนหนึ่ง (อาจจะเป็นคนรัก?)

ภายใต้วัยใส หน้าตาอ่อนเยาว์ ของลูซี่ดูมีอะไรซับซ้อนลึกไปกว่านั้น ในเรื่องเพศสำหรับลูซี่ดูชินชากร้านโลกกว่าที่คิด ในยามที่เธอไปเที่ยวผับเราจะเห็นได้จากฉากที่นักเที่ยวพยายามจะขอมีอะไรกับเธอ และเพื่อแก้ปัญหาระหว่างชาย 2 คนใครจะเป็นฝ่ายได้ไปนอนกับเธอ ลูซี่ใช้วิธีเสี่ยงทายจากเหรียญ -_-''

 ในวันหนึ่งที่ลูซี่ต้องหารายได้เพิ่มเธอเจอประกาศรับสมัครงานและติดต่อขอเข้าไปสัมภาษณ์ กับคลาร่า (Rachael Blake ) เธอต้องพบกับการทดสอบในลักษณะแปลกๆ และเงื่อนไขลึกลับที่ว่า งานดังกล่าวต้องเก็บเป็นความลับ และมีระยะเวลาจำกัด ต้องเตรียมพร้อมที่จะถูกเลิกจ้างอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแลกกับรายได้ก้อนโต แน่นอนว่าลูซี่ยินดีรับงานนี้

งานของลูซี่ไม่เหมือนงานอื่นตรงที่ เธอต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าขณะที่เธอหลับไหลนั้นเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอ รู้เพียงแค่ว่ามีคำัสัญญาว่า จะไม่มีการล่วงละเมิดเท่านั้น ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นดี จนเมื่อวันหนึ่งเธออดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ว่า ขณะที่เธอหลับไหลไม่ได้สตินั้นเกิดอะไรขึ้น ... แต่บางอย่างไม่รู้จะดีกว่า ..

ที่จริงฉันชอบหลายๆ แนวคิดที่ผู้กำกับพยายามบอกอะไรให้กับเราในหนังเรื่องนี้นะ แต่ฉันว่าบางครั้งการที่พยายามซ่อนปริศนาไว้ในที่ต่างๆมากเกินไปก็ทำให้สื่อสารได้ยาก ไม่แน่ว่าผู้กำกับอาจจะปล่อยให้เรามีอิสระในการคิดเองก็ได้ แต่ฉันว่ามันเหมือนกับการเล่นซ่อนหา บางทีซ่อนไว้ลึกเกินไป คนหา หายาก พาลไม่อยากจะหามันซะยังงั้น

เหมือนฉันเอง ตอนดูหนังเรื่องนี้ ในช่วงแรกๆ ที่มีผู้เฒ่าหลายๆ คนพยายามพูดอะไรบางอย่าง ฉันรู้สึกชอบนะ เออ น่าคิดดี แต่พอหลังๆ เริ่มเบื่อจะคิด (เป็นงั้นไป) เลยดูไปเรื่อยๆ และคิดว่าเออ เดี๋ยวมันก็คงจะบอกอะไรเราชัดๆ อะนะ แต่พอดูไปจนจบ ซึ่งผู้กำกับมันจบดื้อๆ นั่นแหล่ะ >.< กลายเป็นรู้สึกว่า อะไรวะ จบงี้เลยเรอะ ซึ่งก็คงเหมือนใครหลายๆ คนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้อ่ะนะ

นอกเรื่องนิดนึง พูดถึงเรื่องหลับ ฉันเคยอ่านหนังสือที่แต่งโดยนักเขียนชาวญี่ปุ่น ชื่อ "หลับ" เป็นรวมเรื่องสั้นๆ หลายๆ เรื่องไว้ในเล่มเดียว โดยตัวละครของแต่ละเรื่องใช้วิธีการ "หลับ" เพื่อหนีปัญหา ฉันว่าก็เก๋ดีเหมือนกันนะ แต่ต้องเป็นการหลับโดยธรรมชาตินะ ไม่ใช้ยา เพราะฉันเคยใช้วิธีนี้ และมันได้ผลดีเหมือนกัน เวลาเจอเรื่องราวหนักๆ ถ้าหากเราปิดสวิทซ์ตัวเองให้หลับได้ ตื่นมาอารมณ์เราจะเปลี่ยนเลย ที่เครียดๆ หายหมด สำหรับฉันมันเวิร์คนะ .. คุณลองทำดูสิ

 -- Sleeping Beauty Trailer :

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น