Side Effects (2013)
ความยาว 106 นาที
ประเภท Crime | Drama | Thriller เรตติ้ง IMDB 7.2
ผู้กำกับ : Steven Soderbergh
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Scott Z. Burns
ดารานำแสดง : Rooney Mara, Channing Tatum, Jude Law,Catherine Zeta-Jones
--
หนังโปรยประโยคหนึ่งไว้ว่า "ยาเพียงหนึ่งเม็ด อาจเปลี่ยนชีวิตของคุณ" เป็นประโยคที่ดูเผินๆ เกือบจะเฉลยเรื่องราวภาพรวมทั้งหมดของหนังเรื่องนี้ เมื่อพิจารณารวมกับชื่อเรื่องแล้ว เพราะมันเกี่ยวข้องกับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรคของตัวละครหลักในเรื่อง
แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว หนังเรื่องนี้มีอะไรมากกว่านั้น เอาเป็นว่าเป็นหนังที่มีการหักมุมชนิดที่ว่าคาดไม่ถูกหลายครั้งหลายคราวด้วยกัน จนผู้ชมอึ้งทึ่งได้ก็แล้วกัน ว่าอะไรมันจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนได้ขนาดนี้ แม้จนวินาทีสุดท้าย หนังก็ยังหักมุมตัดจบแบบให้เราเหวออีกต่างหาก
Side effect เป็นภาพยนต์จิตวิทยาระทึกขวัญที่เกี่ยวข้องกับหญิงสาวที่มีชีวิตคู่ที่แสนหวานกับชายหนุ่มที่เธอรัก อะไรๆ ก็ดูจะลงตัวดี จนกระทั่งเธอได้รับการรักษาจากจิตแพทย์หนุ่ม ซึ่งได้จ่ายยาตัวหนึ่งมา และหลังจากนั้นอะไรๆ ที่เลวร้ายก็เกิดขึ้น..
เรื่องราวของหญิงสาวนาม เอมิลี่ เทย์เลอร์ (Rooney Mara) ผู้ซึ่งมีความรักที่น่าอิจฉากับชายหนุ่มหล่อเหลามาร์ติน (Channing Tatum) ในวันที่พวกเขากำลังเข้าสู่ประตูวิวาห์ฉับพลันความน่าอิจฉานั้นก็แปรเปลี่ยนไปเมื่อมีตำรวจบุกเข้ามาในงานพิธิ และจับตัวมาร์ตินไปดำเนินคดี
เวลาผันผ่านไปนานถึง 4 ปี มาร์ตินพ้นกำหนดโทษ ทั้งคู่จึงได้มีโอกาสได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่ว่าในช่วงเวลาที่มาร์ตินไม่อยู่ ได้ส่งผลให้เอมิลี่มีอาการซึมเศร้า ต้องคอยพบจิตแพทย์เพื่อบำบัดอยู่บ่อยครั้ง และอาการนี้ก็ยังคงอยู่แม้ว่ามาร์ตินจะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับเธอแล้วก็ตาม
อาการของเอมิลี่ยังคงแสดงออกอยู่เป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการแปลกแยกเมื่อเข้าสังคม หรือที่รุนแรงที่สุดเมื่อเธอได้แสดงอาการขับรถชนกำแพงอย่างแรงเพื่อฆ่าตัวตาย จนมีผู้หวังดีพาเธอเข้ารักษาที่โรงพยาบาลที่นี่ทำให้เธอได้พบกับจิตแพทย์หนุ่ม โจนาธาน แบงคส์ (Jude Law) เธอสัญญากับเขาว่าจะมาเข้ารับการบำบัดกับเขาหากเขาจะช่วยให้เธอได้ออกจากโรงพยาบาลไวๆ เพื่อที่เธอจะได้กลับไปใช้ชีวิตกับสามีอย่างปกติ
เมื่อเอมิลี่เข้ารับการรักษาจากนายแพทย์หนุ่มโจนาธาน แม้จะพยายามใช้ยาหลายขนาน แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งโจนาธานติดต่อกับจิตแพทย์คนเก่าที่เคยดูแลเธอมาก่อนเพื่อพูดคุยถึงข้อมูลการรักษา จิตแพทย์สาวคนนั้นคือ ดร.วิคตอเรีย (Catherine Zeta-Jones) เมื่อทั้งคู่ได้สนทนากัน ดร.วิคตอเรียแนะนำให้โจนาธานลองใช้ยาตัวใหม่ที่ชื่อ ablixa รักษาเอมิลี่แทน
จากนั้นโจนาธานก็ยังไม่ได้ทดลองใช้ยาตัวนี้กับเอมิลี่ จนกระทั่งเธอยังพยายามฆ่าตัวตายเป็นครั้งที่สองด้วยการพยายามกระโดดลงไปในรางรถไฟฟ้า ทำให้เขาตัดสินใจใช้ยา ablixa ตามที่ดร.วิคตอเรียแนะนำ ฤทธิ์ของยานั้นช่วยให้เอมิลี่สามารถทำงานได้ตามปกติ เพียงแต่ว่ามันมีผลข้างเคียงบ้าง ซึ่งก็คือ เอมิลี่เกิดอาการเดินละเมอ บางครั้งเธอถึงกับละเมอมาทำอาหารเช้าในกลางดึก
ในช่วงแรกอาการเดินละเมอของเธอยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่นานวันเข้า อาการกลับยิ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ฆาตรกรรมขึ้น และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันแสนเข้มข้นของหนังเรื่องนี้ เพราะทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบ หรือ side effect ของเรื่องนี้แทบทั้งสิ้น ที่สำคัญบทสรุปของเรื่องนี้จะต้องมีผู้ได้รับชัยชนะเพียงฝ่ายเดียว การห่ำหั่นกัน การหักเหลี่ยมเฉือนคม จึงเกิดขึ้น..
ดูหนังเรื่องนี้จบฉันพยายามจะคิดว่าฉันได้ข้อคิดอะไรบ้างกับหนัง 555 แต่นึกไม่ออก ไม่ใช่หนังไม่ดี หนังดีมาก สนุกมากๆ ด้วย ที่จริงแล้วฉันได้อะไรหลายอย่างจากมันนะ เพียงแต่นึกเรียบเรียงคำพูดออกมาเป็นประโยคไม่ได้ นอกเสียจากประโยคที่ว่า "โลกนี้ท่าจะอยู่ยากขึ้นทุกวัน"
..
side effect movies trailer :
ลำพังประโยค "โลกนี้ท่าจะอยู่ยากขึ้นทุกวัน" ของคุณก็เพียงพอแล้วมั้งครับที่จะบรรยายถึงเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ ;P
ตอบลบแต่ถ้ายังไม่ได้ดูขอแนะนำนะคะ เรื่องนี้รูนีย์ มาร่า แสดงได้ดีมากๆ เลยค่ะ :D
ตอบลบ