วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Mona Lisa Smile (2003) : ขีดชีวิต เขียนฝัน


Mona Lisa Smile (2003)
ความยาว 117 นาที ประเภท Drama เรตติ้ง Imdb: 6.2
ผู้กำกับ : Mike Newell
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Lawrence Konner, Mark Rosenthal
ดารานำแสดง : Julia Roberts, Kirsten Dunst and Julia Stiles


หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ฉันดูมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 รอบ ไม่ใช่เพราะว่าฉันชอบมากเป็นพิเศษอะไรหรอกนะ แต่เพราะว่าช่วงก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่บ้าน ระหว่างที่ทำงานก็เปิดเคเบิลทีวีทิ้งไว้ ซึ่งทางช่องก็นำภาพยนต์เรื่องนี้มาฉายซ้ำไปซ้ำมาเรียกว่า ฉันดูจนแรกๆ ไม่ชอบกลายเป็นชอบไปได้ก็แล้วกัน

< ล่าสุดที่ได้ดูคือเมื่อทางฟรีทีวีนำมาฉายอีกครั้ง ฉันก็ยังนั่งดูมันอีก แต่การดูครั้งนี้แปลกแตกต่างจากเดิม เพราะฉันตั้งใจดูมาก เมื่อดูจนจบก็ต้องรู้สึกประหลาดใจกับความรู้สึกของตัวเอง ด้วยว่าความรู้สึกที่มีต่อตัวละครนั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากที่เคยไม่ชอบการกระทำของตัวละครนี้ๆ กลับกลายเป็นเข้าใจ เห็นใจ และรู้สึกผูกพันกับเธอเป็นพิเศษ

Mona Lisa Smile ไม่ใช่หนังที่เกี่ยวข้องกับภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่เรารู้จักกันดี แต่เป็นเรื่องราวของกลุ่มเด็กสาวที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลง ทั้งการเปลี่ยนแปลงของวัยที่จำเป็นต้องเลือกทางเดินของชีวิตจากวัยรุ่นก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ และช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของสังคมที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคย โดยมีหญิงสาวหัวก้าวหน้าคอยชี้แนะแนวทางให้พวกเธอได้มองเห็นโลกได้กว้างขึ้น


เรื่องราวในหนัง อยู่ที่ตัวละครหลัก คือหญิงสาวนาม แคเธอรีน วัตสัน (Julia Roberts) เธอเดินทางจากแคลิฟอร์เนียมายังเวลเลสลีย์ คอลเลจ ในนิวอิงแลนด์ ในฤดูใบไม้ร่วงของปี 1953 เพื่อสอนประวัติศาสตร์ ในช่วงยุคหลังสงคราม แคเธอรีนคาดหวังว่าลูกศิษย์ของเธอ ซึ่งเป็นนักเรียนที่เก่งที่สุด และฉลาดที่สุดในประเทศ คงจะใช้ประโยชน์ จากโอกาสที่มาถึงมือของพวกเธอได้

อย่างไรก็ดี หลังจากมาถึงได้ไม่นาน แคเธอรีนพบว่า สภาพแวดล้อมภายในสถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติแห่งนี้ กลับสอนให้นักเรียนทำตัวให้เหมือนกัน ตามที่ แนนซี่ แอ๊บบีย์ (Marcia Gay Harden) ครูสาวผู้สอนวิชาการออกเสียงและการวางตัวบอก แหวนหมั้นบนนิ้วนางของหญิงสาว ถูกมองว่าเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ กว่าการได้รับการศึกษาทุกด้าน

เมื่อแคเธอรีนสนับสนุนให้ลูกศิษย์ของเธอคิดอย่างเป็นอิสระ ทำให้บรรดาคณะครูและศิษย์เก่าหัวโบราณหลายคนไม่ชอบหน้า ซึ่งก็รวมถึงลูกศิษย์คนหนึ่งของเธอที่ชื่อ เบ็ตตี้ วอร์เรน (Kirsten Dunst) เบ็ตตี้ซึ่งเพิ่งแต่งงาน ตั้งตัวเป็นศัตรู เมื่อแคเธอรีนกล่อมให้เพื่อนซี้ของเธอ โจน แบรนด์วิน (Julia Stiles) สมัครเข้าเรียนต่อโรงเรียนกฎหมายของเยล ขณะที่โจนรอเวลาให้แฟนหนุ่มมาขอแต่งงาน

สำหรับหญิงสาวหัวดีและช่างคิด จิเซล เลวีย์ (Maggie Gyllenhaal) แคเธอรีนคือแม่แบบทางสังคม และเป็นที่ปรึกษาที่เธอต้องการ คอนนี่ เบเกอร์ (Ginnifer Goodwin) หญิงสาวที่แสนอ่อนหวานและขี้อาย เหมือนได้รับความกล้าหาญจากแคเธอรีน และเริ่มมีความเชื่อมั่น ที่จะเอาชนะความไม่มั่นใจของตัวเองได้




ในโลกที่บอกพวกเธอว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร แคเธอรีนกลับสอนให้พวกเธอรู้จักคิดเพื่อตัวเอง ขณะเดียวกัน แคเธอรีนที่เสมือนได้เรียนรู้ จากการค้นหาเส้นทางของตัวเองของเหล่าลูกศิษย์ ได้ เรียนรู้ที่จะแสวงหาเส้นทางที่แตกต่างไป ให้กับตัวเองเช่นกัน...
(อ้างอิงบทความเรื่องย่อจาก http://www.nangdee.com)



หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เราได้เห็นวิวัฒนาการของการพัฒนาการทางความคิดของผู้หญิงในยุคสมัยก่อนๆ ได้เป็นอย่างดี พวกเธอถูกสังคมตีกรอบให้คิดและทำเหมือนๆ กัน นั่นคือ เน้นเรียนการบ้านการเรือน เพื่อเตรียมตัวเป็นแม่บ้านให้กับชายหนุ่ม เป็นช้างเท้าหลัง  เมื่อมีใครสักคนที่ริเริ่มคิด และทำสิ่งที่แตกต่างออกไป จึงถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ดีงาม 

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากพวกเธอมีความเข้มแข็ง และอดทนเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าแนวคิดใหม่ๆ นั้นนำสิ่งที่ดีกว่ามาให้ สักวันหนึ่งผู้คนที่เคยต่อต้านก็จะยอมรับได้เองในที่สุด ซึ่งแม้ต้องใช้ความอดทนรอคอยบ้าง แต่มันก็ยังคุ้มอยู่ดี

ฉันดูหนังเรื่องนี้หลายรอบ และหลังๆ ฉันชอบตัวละครเด็กผู้หญิงเหล่านั้น แม้พวกเธอจะมีแนวคิดที่แตกต่างกัน แต่ฉันชื่นชมกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนระหวางพวกเธอ เพราะเพื่อนไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกันๆกับเรา แต่เพื่อนจะเข้าใจเราเสมอ และอยู่ข้างกันยามที่ต่างฝ่ายต่างต้องการกำลังใจ หนังเรื่องนี้ก็สะท้อนให้เราได้เห็นแง่มุมนี้ได้ดี แม้จะมีบางอารมณ์ที่ออกแนวเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดบ้าง แต่ในที่สุดแล้วสายสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอก็ยังงดงามเสมอ..

Mona Lisa Smile 2003 Movie Trailer :


2 ความคิดเห็น :

  1. สำหรับผมแล้ว มีหนังน้อยเรื่องมากๆ ครับที่ผมสามารถดูเกินสามรอบได้ (หนึ่งในนั้นคือหนังไตรภาค Lord of the Rings) ดังนั้นผมจึงรู้สึกทึ่งเวลาคุณบอกว่าดูหนังเรื่องหนึ่งๆ ได้หลายรอบ แล้วนับครั้งก็ยิ่งพบเสน่ห์หรือรายละเอียดของหนังเพิ่มขึ้นอีกด้วย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมสมัครเป็นแฟนขับชนิดตลอดชีพของบล็อกนี้ได้ยังไง๊ ;D

    ตอบลบ
  2. แหม ไม่กล้าอ่านเลย ชมกันเกินไปละคะ >.< .. ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันบ่อยๆ นะคะ

    อ่อ เรื่อง Chicken with plums ที่แนะนำไว้ ได้มาแล้วนะคะ ตะกี้ตอนซิงค์ซับได้ดูไปนิดนึง ก็รู้ว่าเป็นหนังดีแล้วละคะ แทบอดใจดูให้จบไม่ไหว แต่ต้องอดใจไว้ดูพรุ่งนี้ เพราะตอนนี้ดึกมากแล้ว ไว้ดูจบจะมาเขียนไว้ในบลอกอีกทีนะคะว่าคิดยังไง :)

    ขอบคุณทีแนะนำหนังดีๆ ค่ะ

    ตอบลบ