วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

The Skin I live In (2011) : แนบเนื้อคลั่ง



The Skin I live In (2011)หนังเสปน (Original title :La piel que habito)
ความยาว 117 นาที ประเภท Drama | Thriller เรตติ้ง IMDb 7.6
ผู้กำกับ : Pedro Almodóvar
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Pedro Almodóvar (screenplay), Agustín Almodóvar (collaboration)
ดารานำแสดง : Antonio Banderas, Elena Anaya and Jan Cornet --

ฉันเพิ่งดูหนังเรื่องนี้จบหมาด ๆ ด้วยอารมณ์เหวอ -_- ก่อนจะเขียนถึงหนัง ขอบ่นนิดนึงสำหรับชื่อภาษาไทย ตั้งได้ @%%@&&#$#$% มาก จริงๆ แล้วฉันมองผ่านหนังเรื่องนี้ไปหลายรอบ เพราะเห็นชื่อภาษาไทยนี่แหล่ะ เห็นชื่อแล้วคิดไม่ใช่เรื่องเดียวกัน เลยมองผ่านไปทั้งๆ คิดอยากดูตั้งแต่หนังเข้าฉายใหม่ๆ ตั้งชื่อเสียอย่างกับหนังประโลมโลกย์เรทอาร์อะไรทำนองนั้น

 กลับมาที่หนังต่อ บอกตรงๆ ว่าดูจบแล้วเพลีย เพลียจิตอย่างแรง นับว่าเป็นพล๊อตเรื่องที่แปลกแหวกแนวอย่างยิ่ง จากที่ดูจบฉันสรุปเองเองว่าตัวละครทุกตัวล้วนบ้าทั้งเรื่อง แถมฉันก็บ้าด้วยที่อุตส่าห์นั่งดู 555 ไม่ใช่ว่าหนังไม่สนุก หรือไม่คุ้มค่าแก่การดูนะ เดี๋ยวจะหาว่าฉันตัดสินว่าหนังไม่ดี และเผื่อคนที่ยังไม่ได้ดูมาอ่านจะพาลไม่อยากดูไปเสีย จริงๆ แล้วเป็นหนังที่พล๊อตแปลกหายากที่เดียว ให้อารมณ์ระทึกขวัญได้เป็นอย่างดี

 เรื่องราวในภาพยนต์เป็นเรื่องของศัลยแพทย์ฝีมือดีชื่อโรเบิร์ต (Antonio Banderas) เขามีปมเบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับบุคคลในครอบครัว ส่งผลให้เขากลายเป็นคนที่มุ่งมั่นจะเอาชนะธรรมชาติในการปรับปรุงพันธุกรรมมนุษย์เสียใหม่ ซึ่งประโยคที่เขาพูดก็ฟังดูน่าสนใจดี เขาบอกว่า "คนเราพยายามไปยุ่งกับธรรมชาติ พยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลงผลไม้ สัตว์ ฯลฯ แล้วทำไมไม่ใช้เทคโนโลยีมาปรับปรุงเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยกันล่ะ" ซึ่งแม้ประโยคนี้จะฟังดูมีเหตุผล แต่มันก็ดูขัดกับหลักจริยธรรม นั่นทำให้เขาถูกแบนจากผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงวิทยาศาสตร์ และการแพทย์

แม้จะถูกขัดขวาง แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นทดลองต่อไป เพียงแต่เขาใช้มนุษย์จริงๆ มาทดลอง เธอคือ เวร่า (Elena Anaya) สาวสาวยผู้มีใบหน้าคล้ายภรรยาเก่าที่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำไฟครอกเสียโฉม ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นส่งผลให้ยอมรับความจริงกับสภาพที่เป็นอยู่ไม่ได้ เธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย และนั่นเป็นบาดแผลในใจของโรเบิร์ตพอสมควร เวร่าอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของโรเบิร์ต หากแต่ไม่สามารถออกจากห้องสี่เหลี่ยมนั้นได้ เธอได้แต่ใช้การเล่นโยคะ มีงานอดิเรกทำศิลปะตัดแปะ หนังสือที่แม่บ้าน (Marisa Paredes) คอยจัดส่งมาให้ เป็นแหล่งผ่อนคลายอารมณ์เพียงเท่านั้น

หนังค่อยๆ เล่าถึงปมของเรื่องราว เหตุผลที่ตัวละครกระทำบางสิ่ง คนดูจะได้รู้สึกเหมือนจมเข้าไปสู่เขาวงกตอันลึกลับซึ่งภายในมีตัวละครที่เกี่ยวพันกันอยู่ด้วยความพยาบาท การแก้แค้น หลายชั้นหลายตอน แต่เมื่อติดตามชมไปถึงตอนท้ายเรื่อง เราก็จะได้เห็นการคลี่คลายที่ค่อนข้างหักมุมพอสมควร ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับฉันรู้สึกอึ้ง ทึ้ง เหวอ กันเลยทีเดียว

สำหรับดารานำแสดง แอนโตนิโอในเรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงฝีมือ เพราะระดับเทพอยู่แล้ว แต่สำหรับรูปลักษณ์ฉันว่าเขาดูแก่ไปถนัดใจ ไม่รู้ว่าเพราะเมคอัพ หรือว่าสภาพที่แท้จริงของเขากันแน่ ส่วนนางเอกของเรา เรื่องนี้เปลืองตัวในระดับไม่มากเท่าที่เธอแสดงในภาพยนต์เรื่อง Room In Rome อันนั้นสุดๆ แต่ถ้าพูดเรื่องฝีมือการแสดงอารมณ์ ฉันว่าก็ใช้ได้ทีเดียว

 ถ้าถามต้วเองว่า ฉันได้อะไรจากหนังเรื่องนี้ ก็คงเป็นเรื่องของการพ่ายแพ้อารมณ์กระมัง ที่แม่บ้านพูดกับพระเอกบ่อยว่า "คุณน่ะมักจะแพ้ผู้หญิง" ซึ่งนั่นก็เป็นความจริงอย่างยิ่ง เพราะสุดท้ายต่อให้เก่งแค่ไหน วางแผนมาดีแค่ไหน หากพ่ายแ้พ้อารมณ์แล้วละก็ พังทุกราย พระเอกของเราก็เหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ

 ข้อคิดข้อนี้ทำให้ฉันคิดถึงคำที่รุ่นพี่พูดให้ฟังว่า "การที่ชีวิตเราขึ้นอยู่กับอารมณ์ มันไม่เวิร์ค การที่เราต้องเปลี่ยน action ตามอารมณ์ มันก็ไม่เวิร์ค" ซึ่งแม้มันอาจจะไม่เกี่ยวข้องการที่พระเอกใช้อารมณ์เข้าตัดสินเหมือนหนังเรื่องนี้ แต่มันก็คล้ายๆกันในแง่ที่ว่า ถึงจุดหนึ่งถ้าเราเอาชนะอารมณ์ได้ ก่อนจะตัดสินใจอะไรใช้เหตุผลดูผลได้ผลเสีย  โอกาสพลาดก็จะน้อยนั่นเอง... ---

The Skin I Live In : Movies Trailer 


ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น