วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Friends with Benefits (2011) เพื่อนกันมันส์กระจาย



Friends with Benefits (2011) 
ความยาว 109 นาที ประเภท Comedy | Romance 
คะแนนจาก IMDb 6.6
ผู้กำกับ : Will Gluck
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Keith Merryman, David A. Newman
 ดารานำแสดง : Mila Kunis, Justin Timberlake และ Patricia Clarkson 

--- ฉันเคยตั้งคำถามกับตัวเองมานานเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า "หญิง ชาย เป็นเพื่อนกันจริงๆ ได้ไหม?" ซึ่งคำถามนี้ยังไม่ได้คำตอบที่สมบูรณ์ดี ก็มาเจอคำถามที่เด็ดกว่่าที่ว่า "หญิง ชาย สามารถเ็ป็นเพื่อนกันจริงๆ ได้ไหม ในขณะที่ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ทางกายด้วยกันเสียด้วย" และหนังเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวที่ช่วยเติมเต็มคำตอบให้กับคำถามดังกล่าวได้เป็นอย่างดี 

"Friends with Benefits" เป็นเรื่องราวของหญิงสาวชาวนิวยอร์ก ชื่อเจมี่ (Mila Kunis)เธอเป็นหญิงสาวที่มีบุคลิกทะมัดทะแมง เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน และกล้าแสดงออก ซึ่งเป็นภาพที่ทุกคนมองกันว่าเป็นหญิงเก่งคนหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันเธอก็มีมุมอ่อนไหว ช่างเพ้อฝัน และในความฝันลึกๆ ที่เธอมีคือ วันหนึ่งจะมีเจ้าชายสุดหล่อเข้ามามอบรักแท้ให้กับเธอ แต่หลายครั้งหลายคราที่มีหนุ่มแวะเวียนเข้ามาในชีวิต พวกเขาเหล่าันั้นก็ยังไม่ใช่คนที่เธอฝันหา



จนกระทั่งด้วยหน้าที่การงานทำให้เธอได้พบกับชายหนุ่มผู้มีปัญหาส่วนตัวที่ซับซ้อน และนั่นทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องความรักเช่นเดียวกัน เขาคือ ชายหนุ่มชาวแอลเอชื่อไดแลน (Justin Timberlake)  สาวเจมี่นั้นทำงานเป็นนายหน้าจัดหางาน ซึ่งภารกิจของเธอในตอนนี้คือ ต้องหาอาร์ตไดเรคเตอร์ให้กับกับนิตยสาร GQ และงานนี้ทำให้ชายหนุ่มหญิงสาวได้รู้จักกัน

พวกเขาผู้ซึ่งผิดหวังกับเรื่องความรักมาหมาดๆ ตัดสินใจคบหาเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อตกลงกันว่า จะใช้ sex เ็ป็นเหมือนกับกีฬา หรือแค่สิ่งที่ต้องการผ่อนคลายทางกายระหว่างกันเท่านั้น จะไม่ใช้ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น

พวกเขานัดพบกัน ปรึกษาปัญหาเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัวกัน รวมถึงมีความสัมพันธ์อย่างว่ากัน (จะว่าไปแล้วก็มีมุมด้านดีของความสัมพันธ์ทางกายแบบนี้นะ คือ พวกเขาสามารถเปิดเผยความต้องการที่แท้จริงของแต่ละฝ่ายได้โดยไม่เก้อเขิน ซึ่งเรื่องนี้แม้คู่แต่งงานหลายๆ คู่ก็ยังไม่กล้าที่จะเอ่ยปากบอกกัน และนั่นทำปัญหาความต้องการไม่ตรงกัน ซึ่งบางครั้งก็บานปลายจากปัญหาบนเตียง กลายเป็นปัญหาสังคมได้) 

นอกจากนั้นพวกเขายังพยายามที่จะนัดเดทกับชายหนุ่ม หญิงสาวคนอื่นๆ ไปพร้อมๆ กันอีกด้วย โดยมีกฎที่ว่า จะต้องเดทให้ครบ 5 ครั้งก่อนถึงจะมีความสัมพันธ์กันได้ ซึ่งในขณะที่อีกฝ่ายต่างไปเดทกับคนอื่น อีกฝ่ายก็รู้ร้อนรนกระวนกระวายใจ โดยไม่ทันได้รับรู้ว่าหรือนี่จะพวกเขาจะเกิดความรู้สึกพิเศษขึ้นมา

ฉันคงไม่เล่าต่อว่าเรื่องราวจะจบอย่างไร แต่เชื่อว่าทุกคนเดากันออกอยู่แล้วว่าปลายทางของเรื่องราวจะจบอย่างไร และจุดจบของเรื่องราวในหนังไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ฉันรู้สึกสนใจเท่ากับคำตอบในคำถามที่ฉันตั้งโจทย์ไว้ก่อนหน้านี้ซึ่งฉันได้ค้นพบ และยิ่งตอกย้ำความเชื่อเดิมของตัวเอง

 กลับมาที่คำถามว่า หญิงชายเป็นเพื่อนกันจริงๆ ได้ไหม? สำหรับความเห็นส่วนตัวของฉันยังเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า พวกเราสามารถเป็นเพื่อนกันได้จริง เพราะหากความปรารถนาของฝ่ายใดมากมายเกินไปกว่านั้น ผู้หญิงเรามักจะมีเซ็นซ์ในการเลืิอกเป็นเพื่อน หรือแฟน แต่อย่างน้อยฉันเชื่อว่าพวกเราชัดเจนมากพอกับความรู้สึกในเรื่องนี้ เราคงไม่เรียกตัวเองว่าเพื่อน ในขณะที่ความรู้สึกมันลึกล้ำไปกว่านั้น ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะเลือกที่จะถอยห่างออกไป มากกว่าจะเสแสร้งแกล้งทำตัวเป็นเพืื่อนอยู่ต่อไป
แต่ในขณะที่เราชัดเจนว่า ผู้ชายคนนี้เราเลือกที่จะเพื่อนมากกว่าแฟน เราก็จะปฎิบัิติต่อกันอย่างเพื่อนที่ดีเช่นกัน

 ฉันมักจะพูดกับเพื่อนบ่อยๆ ว่า "ฉันเลือกที่มีเพื่อนที่ดี มากกว่าให้เพื่อนที่ดีกลายเป็นแฟนที่เลว" และฉันก็บังอาจเหมารวมไปว่า บางทีผู้หญิงส่วนใหญ่ก็คงจะคิดเหมือนกันเช่นกัน ถ้าเรารู้อยู่ว่า คนนี้เหมาะที่จะเป็นแค่เพื่อน เราก็จะวางไว้ในตำแหน่งนั้น มากกว่าที่ฝืนเปลี่ยนสถานะเป็นคนรัก แล้วกลายเป็นสถานะคนรักที่ไม่ยั่งยืน

 แต่สำหรับในกรณีที่ซับซ้อนกว่านั้น เป็นเพื่อนต่างเพศที่มีความสัมพันธ์ทางกายกันด้วย ถ้าในกรณีนี้ฉันไม่เชื่อว่า พวกเขาจะเป็นเพื่อนกันได้ แม้ว่าฉันจะได้ยินกรณีเหล่านี้หนาหูขึ้นในสังคมปัจจุบัน แต่ฉันเชื่อว่าภายใต้ท่าทีที่ไม่แสดงความรู้สึกผูกพันนั้น ลึกๆแล้ว มันมีคลื่นความรู้สึกที่ำกำลังปั่นป่วนอยู่ และแน่นอนว่า เรื่องความสัมพันธ์แบบนี้ของพวกเขามักจะจบลงไม่ค่อยสวยนัก .. ก็มนุษย์เราน่ะ มีหัวใจนะ ที่รู้สึกรู้สา หัวเราะได้ ร้องไห้เป็น นี่นา.. คุณเห็นด้วยกับฉันไหมล่ะ ?


 -- Friends with Benefits Movie Trailer Official (HD)

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น