วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

Bedevil (2010) : เกาะสะใภ้คลั่ง


Bedevil (2010) 
หนังเกาหลี Original Title : Kim Bok-nam salinsageonui jeonmal
ความยาว 115 นาที ประเภท: Crime | Drama | Thriller
เรตติ้ง Imdb : 7.1
ผู้กำกับ : Chul-soo Jang
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Kwang-young Choi
ดารานำแสดง : Yeong-hie Seo, Seong-won Ji, Min-ho Hwang
 --
ฉันชอบหนังระทึกขวัญของเกาหลีเพราะมันจริงใจ ตรงๆ และสมจริงดี แม้หนังแนวนี้ส่วนใหญ่จะโหดเลือดสาด แต่มันก็มีที่มาที่ไปของมัน ซึ่งผู้ชมอย่างเราพอเข้าใจได้ และที่สำคัญการนำเสนอผ่านการเขียนบทนอกจากมีเหตุและผลรองรับแล้ว การดำเนินเรื่องจากเริ่มต้นไปสู่จุดสุดท้ายก็ยังมีการเรียงลำดับ ค่อยๆดำเนินไปอย่างช้าๆ และแนบเนียนจนทำให้เราเชื่อได้ว่าเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่ตัวละครกระทำลงไปมันเป็นไปได้จริงๆ

น่าแปลกที่หนังเรื่อง Bedevil นั้นออกฉายตั้งแต่ปี 2010 และฉันเป็นคอหนังแนวนี้ กลับเพิ่งได้รู้จักมันเสียอย่างนั้น และเมื่อได้มีโอกาสหยิบมาดูก็ให้เกิดความประทับใจไม่แพ้ภาพยนต์เกาหลีแนวๆนี้ อาทิ cheaser , i saw devil ฯลฯ เลย ฉันคิดว่าธีมเรื่องนั้นมีความคล้ายคลึงกับหนังเรื่องที่ฉันกล่าวถึง ที่ใช้ความแค้น ความกดดัน เป็นแรงผลักให้ตัวละครหลักกระทำบางสิ่งบางอย่าง เพียงแต่หนังเรื่องนี้แตกต่างตรงที่นำเสนอในแง่มุมมองของตัวละครหลักที่เป็นฝ่ายหญิง

Bedevil เป็นเรื่องราวชีวิตของหญิงสาว 2 คน ผู้ซึ่งมีวิถีชีวิต แนวคิดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันก็ตาม  วีถีชีวิตของทั้งคู่ดูเหมือนเป็นเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบกันได้ หากแต่มีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง และการพบกันครั้งนี้อาจทำให้ได้รู้จักกันและกันมากขึ้น เพียงแต่บทเรียนนี้ช่างรุนแรง เจ็บปวด และบ้าคลั่ง เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด..


หนังเริ่มต้นเล่าแนะนำให้เราได้รู้จักหญิงสาวคนแรกคือ Hae-won (Seong-won Ji) เป็นหญิงสาวสวย และยังเป็นโสด มีอาชีพพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงโซล ที่เป็นเมืองใหญ่ ซึ่งคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตแบบวัตถุนิยมที่เร่งรีบหาเงิน จนลืมใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับความรู้สึกระหว่างมนุษย์ด้วยกัน เพียงช่วงสั้นๆ หนังนำเสนอหลายฉากให้เราได้รู้สึกกับตัวตนของ Hae won อีกหลายอย่าง ซึ่งอุปนิสัยบางอย่างที่เราอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ใครๆ ก็ทำกัน นั้นมันมีผลต่อชีวิตของเธอในอนาคต

และความผิดพลาดเล็กๆในลักษณะนิสัยของเธอนี่เอง เมื่อถูกไม่ได้แก้ไขให้หมดไป มันก็นำไปสู่ความผิดพลาดที่เป็นจุดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเธอถูกตัดสินให้ถูกพักงาน ในช่วงว่างนี้เองทำให้ Hae won ตัดสินใจกลับไปใช้เวลาพักผ่อนที่เกาะแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมที่เธอเคยอยู่ในสมัยเด็กๆ

ทันทีที่เท้าของเธอก้าวขึ้นบนเกาะก็ได้พบกับเพื่อนสนิทสมัยเด็กๆ รออยู่แล้ว เธอคือ Kim Bok-nam (Yeong-hie Seo) ซึ่งเป็นหญิงสาวชาวบ้าน ไร้การศึกษา แถมยังต้องอยู่ในสังคมชนบทห่างไกลที่ยึดถือขนบธรรมเนียม ความเชื่อที่ว่า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง ไร้สิทธิเสียงใดๆ มีหน้าที่เพียงเป็นวัตถุทางเพศ เป็นแรงงานที่คอยปรนเปรอบริการเพศชายในครอบครัวเท่านั้น

ครอบครัวของ Kim bok nam ประกอบด้วย สามีขี้เมาของเธอ พี่ชายสามีผู้ซึ่งมีบุคลิกกักขระ หยาบคาย และมักเคี้ยวใบกระท่อม (มั้ง) อยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังมีแม่สามีที่คอยแต่จะให้ท้ายลูกชายทั้งสอง และพ่อของสามีที่สติสตังเลอะเลือนไม่รับรู้เหตุการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

kim bok nam นั้นมีลูกสาวหนึ่งคน ที่ดูว่าจะดำเนินรอยตามชีวิตของเธอไปติดๆ นั่นคิดอยู่บนเกาะอันไกลห่างความเจริญแห่งนั้น ไร้การศึกษา และจะต้องมีหน้าที่คอยรับใช้เพศชายในอนาคต ดังนั้นเมื่อ Hae won กลับมาที่เกาะแห่งนี้อีกครั้งจึงเป็นเสมือนความหวังอันแสนเรืองรองที่จะช่วยให้ลูกสาวของเธอไม่ต้องมีวิถีชีวิตอันแสนขมขื่นอย่างที่เธอเคยเป็นมาตลอด

เมื่อหญิงสาว 2 คนที่มีวิถีชีวิตแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน พวกเธอต่างได้เรียนรู้ถึงชีวิตของเพื่อนเก่าเพื่อชดเชยเวลาที่เหินห่างกันไป โดยเฉพาะการใช้ชีวิตอยู่บนเกาะแห่งนี้ของ Kim bok nam ที่สุดแสนจะรันทดชนิดทำให้เพื่อนสาวชาวเมืองกรุงอดคิดไม่ได้ (รวมถึงฉันด้วย)ว่า ทนไปได้ยังไง มันจะรันทดเกินไปแล้วนะ

แต่หนังก็ฉลาดในการดำเนินเรื่องที่ขณะที่ค่อยๆ ชี้ให้เราได้เห็นถึงพฤติกรรมอันแสนเลวร้ายที่มนุษย์เพศชายในเรื่องค่อยกระทำให้เราได้เห็นมากขึ้นเรือ่ยๆ นั้น มันเกิดขึ้นพร้อมกับความหวังที่เกิดในใจของ kim bok nam ที่เคยศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเพื่อนสนิทในสมัยวัยเยาว์ของเธอนั้นค่อยผุกรอ่นไปเรื่อยเช่นกัน

และเมื่อสุดท้ายความหวังที่เคยฝากไว้กับใครสักคนนั้นมันสูญสลายหายไป สิ่งที่คนเราส่วนใหญ่ทำ รวมถึงตัว kim bok nam ด้วยคือ ถึงเวลาที่ต้องกลับมาพึ่งตัวเอง เพียงแต่มันรุนแรงเกินกว่าที่ควรจะเป็น ชนิดคนดูอย่างฉันยังไม่กล้าตัดสินว่า มันเป็นความสะใจ เป็นบทลงโทษ หรือเป็นเพียงแรงผลักดันจากความผิดหวัง สิ้นหวังกันแน่ ...

ดูหนังเรื่องนี้จบสิ่งหนึ่งที่ฉันคิดถึงคือ เรื่องของบทเรียนในชีวิตคนเรา ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เพื่อเตือนให้เรารู้จักรักษาสมดุลบางอย่าง มันเป็นเหมือนก้อนกรวดเล็กที่เรารู้สึกว่ามันบังเอิญกระเด็นเข้ามาติดในรองเท้าเรา แต่ถ้าเราไม่ได้เรียนรู้และสอบให้ผ่านด้วยการสังเกตุถึงการมีอยู่ของมัน แล้วหยิบมันทิ้งออกไป มันจะกลายเป็นก้อนกรวดที่ทำให้เราเจ็บขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เดิน จนกระทั่งอาจรุนแรงถึงทำให้เท้าเราเป็นแผลและเดินต่อไปไม่ได้

เหมือนนิสัยบางอย่างที่เป็นข้อบกพร่องของเรา ถ้าเราไม่ได้ใส่ใจจะแก้ไข มันอาจจะเป็นอุปสรรคใหญ่ หรือส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายบางอย่างในชีวิตของเราได้ เช่นเดียวกับละครในหนังเรื่องนี้ ..
--
Bedevil (2010) Movies Trailer :


ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น