Tickets (2005)
หนังอิตาลี (Italy)
ความยาว 109 นาที ประเภท: Comedy | Drama
ผู้กำกับ : Abbas Kiarostami, Ken Loach และ Ermanno Olmi.
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Abbas Kiarostami , Paul Laverty
ดารานำแสดง : Carlo Delle Piane, Valeria Bruni Tedeschi และ Silvana De Santis
--
หนังอิตาเลี่ยนเรื่องนี้เป็นผลงานร่วมมือกันของ 3 ผู้กำกับ คือ Abbas Kiarostami ผู้กำกับชาวอิหร่าน,Ken Loach ผู้กำัักับชาวอังกฤษ และ Ermanno Olmi ผู้กำกับชาวอิตาเลี่ยน โดยแบ่งเป็นเรื่องสั้น 3 เรื่อง รวมอยู่ในภาพยนต์เรื่องเดียวกัน โดยใช้เทคนิคการถ่ายทอดตามสไตล์ของผู้กำกับแต่ละคน
Tickets เล่าเรื่องราว 3 เรื่องของกลุ่มคน 3 กลุ่มกับการเดินทางบนรถไฟจากใจกลางเมืองอิตาลีเพื่อไปสุดปลายทางที่โรม โดยเหตุการณ์ทีเ่กิดในเรื่องนั้น เกิดขึ้นขณะที่พวกเขาใช้เวลา 1 คืนอยู่ในตู้รถไฟ โดยมีเหตุการณ์ต่างกรรมต่่างวาระกันไปแต่เกิดในสถานที่เดียวกัน
เรื่องแรกเป็นเรื่องของชายชราผู้มีอาชีพเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Bio-pharma จากออสเตรเลีย เขามาทำงานที่เมืองนี้ และต้องเดินทางกลับบ้านด้วยรถไฟเที่ยวนี้ด้วยเหตุว่าพลาดการเดินทางด้วยเครื่องบิน โดยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สาวสวยของบริษัทที่เขามาทำงานให้ ในช่วงหนึ่งคืนของการเดินทาง เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่มีต่อเธอผู้นั้น หนังบรรยายถึงอารมณ์เพ้อฝัน,ความปรารถนา , ความโหยหา ,ความอาลัย ของชายชราที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัดแย้งกับความวุ่นวายของผู้คนขณะเดินทาง
สำหรับหนังเรื่องแรกนี้ฉันคิดว่ามันสามารถเป็นหนังรักดีๆ เรื่องหนึ่งได้เลยนะ เพียงแต่พล๊อตอาจจะแปลกไปจากที่เีคยสักหน่อย แต่การถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครนี่ใช้ได้เลย ท่ามกลางความวุ่นวายอึกทึกของการเดินทาง แต่ผู้กำกับสามารถทำให้เรารู้สึกว่า ชายชราคนนี้นั่งอยู่คนเดียวและรำพึงรำพันถึงอารมณ์โหยหาเสียดาย ที่จากมาโดยที่ไม่ทันได้เผยความนััยใจ ขณะเดินทางก็พยายามที่จะพิมพ์จดหมายถึงเธอ เพื่อแสดงออกให้เธอรู้ แต่พยายามเขียนเท่าไหร่ ก็ไม่สำเร็จ ... แล้วหนังก็จบเรื่ิองราวเพ้อฝันเวิ่นเว้อด้วยการออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง .. โลกที่น้ำใจเป็นสิ่งสำคัญต่อการอยู่ร่วมกัน
--
เรื่องที่สอง เป็นเรื่องของชายหนุ่ม และหญิงชรารูปร่่างอวบอ้วน พวกเขาทำให้คนดูสามารถจินตนาการได้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ หญิงแก่ชราที่เอาแต่ใจ และทุกข์ระทมบนสีหน้าที่ซ่อนไว้ไม่มิด ตอนแรกเธอพาเขามานั่งในที่นั่งชั้นหนึ่ง สักพักมีเหตุการณ์ที่ต้องทำให้ลุ้น แต่ก็คลี่คลายไปได้ ต่อมาก็มีเหตุการณ์อีก คราวนี้ทั้งคู่ต้องย้ายที่นั่งไปในชั้นสอง แต่ก็ไม่วายที่หญิงชราจะต้องวุ่นวายใจเมื่อหันไปทางไหนก็เต็มไปด้วยหญิงสาวสวยรูปร่างดี อันตอกย้ำปมด้อยบางอย่างของเธอ จนสุดท้ายชายหนุ่มตัดสินใจกระทำบางอย่างที่สุดจะคาดคิด ...
สำหรับเรื่องนี้นั้นทุกวินาทีของฉันขณะดูเต็มไปด้วยความสนใจใคร่รู้ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร เพราะเราไม่สามารถเดาก่อนได้เลย ด้วยการเล่าเรื่องที่เรื่อยๆ เอื่อยๆ นั่นเอง แต่ก็หักมุมได้ตลอดเวลาเช่นกัน หรือจนแม้กระทั่งตอนจบก็ทำให้อึ้งไปเลย
--
ส่วนเรื่องสุดท้าย เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มชาวสก๊อตสามคน พวกเขาสวมเสื้อทีมฟุตบอลลายขาว-เขียว โดยเดินทางมาที่โรมเพื่อชมการแข่งขันนัดสำคัญ หนังเล่าว่าพวกเขาทำงานในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตและเก็บเงินเพื่อการเดินทางครั้งนี้ ระหว่างทางพวกเขาได้เจอกับเรื่องราวมากมายที่ทำให้ต้องตัดสินใจ เมื่อเจอเหตุการณ์วิกฤตส่วนตัว และได้รับรู้เรื่องราววิกฤตของครอบครัวผู้ลี้ภัยชาวอัลบาเนีย ระหว่างปัญหาตัวเอง กับปัญหาผู้อื่นที่สามารถแก้ไขได้เพียงเคสเดียว ซึ่งพวกเขาได้เรียนรู้เรื่องของน้ำใจ ,ความเชื่อใจ และการเสียสละ ..
ตอนที่อ่านรีวิวใน IMDb มีหลายคนชอบเรื่องสุดท้าย ซึ่งตอนเริ่มต้นเรื่องไม่ค่อยน่าสนใจแถมน่ารำคาญอีกต่างหาก ด้วยเจ้าสามหนุ่มน้อยนั่นสบถตลอดเวลาแทบจะทุกประโยคอีกต่างหาก และยังโหวกเหวกโวยวายตลอดเส้นทาง แต่ว่าพอดูไปๆ กลายเป็นว่าเด็กหนุ่มพวกนี้ที่ภายนอกดูเป็นเ็ด็กเกรียนๆ กลับมีน้ำใจตั้งแต่แรกจนวินาทีสุดท้ายเลย คนเรานี่ตัดสินกันแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆเนอะ...
แน่นอนภาพยนต์ที่รวบรวมผลงานของผู้กำกับหลายคนนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือทำให้เราได้ชมเรื่องราว และการถ่ายทอดที่หลากหลายภายในการชมครั้งเดียว แต่ก็มีข้อเสียคือ การขาดความสอดคล้องกันทำให้เกิดการเปรียบเทียบขึ้นมาว่า เรื่องไหนดีเรื่องไหนด้อย ทั้งที่ฉันว่าทั้งสามเรื่องดีเหมือนกันหมด เพราะเป็นสไตล์การถ่ายทอดของแต่ละผู้กำกับแต่ละคนมากกว่าที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันต่างกัน พอมารวมกันแล้ว เรื่องไหนเร้าอารมณ์มากกว่า ฉูดฉาดกว่า จึงถูกมองว่าเป็นเรื่องเด่นที่สุด
สำหรับคุณที่อยากชม แต่หาซื้อแผ่นแท้ไม่ได้ สามารถหาชมหนังเรื่องนี้ได้ทาง Youtube เช่นเดิมค่ะ :)
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น