Nobel Son (2007)
เรท R, ความยาว 110 นาที ,ประเภท : Comedy | Crime | Drama,คะแนน IMDb :6.4
ผู้กำกับ : Randall Miller
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Jody Savin, Randall Miller
ดารานำแสดง : Alan Rickman, Bryan Greenberg และ Shawn Hatosy
---
นักปรัชญาคนนึงเคยพูดไว้ว่า "มนุษย์ที่กินมนุษย์ด้วยกันเองทั้งเป็น ป่าเถื่อน โหดร้าย ยิ่งกว่ามนุษย์กินคนที่จะกินเฉพาะตอนที่ทำให้ตายแล้วเท่านั้น" (จำได้ไม่ค่อยแม่นนะคะ ) และหนังเรื่องนี้อธิบายคำพูดนี้ได้ดี ฉันได้ดูหนังเรื่องนี้จากเคเบิลทีวี สนุกจนต้องมาแบ่งปันไว้ที่หน้าบลอคนี้ เพราะเป็นหนังตลกร้ายเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำให้คุณๆ ได้ดู
Nobel Son เป็นเรื่องราวของครอบครัวๆ หนึ่งที่ไม่อบอุ่น ทั้งๆ ที่เป็นครอบครัวที่มีฐานะ และชื่อเสียง และโดยเฉพาะผู้เป็นพ่อซึ่งชาญฉลาดจนถึงขนาดได้รับรางวัลโนเบล พวกเขาแก้แค้นกันเอง จนเลยเถิดส่งผลร้ายแรงเกินคาด แต่อาจจะมีข้อดีตรงที่ใครบางคนจะได้รับบทเรียนเสียบ้าง
ผู้นำครอบครัวคือ ศาสตราจารย์อีไล (Alan Rickman) นั้นเป็นชายอัจฉริยะสอนอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เขาเป็นคนที่หลงไหลกับความเก่งกาจของตัวเองจนมองไม่เห็นหัวใครๆ หรือเรียกว่าเป็นคนที่มีอีโก้สูงมากๆ สังเกตจากคำพูดหลายๆ ประโยคในเรื่องเกือบทั้งเรื่องที่เขานึกอยากจะพูดก็พูดออกมาโดยไม่สนใจว่าคนฟังจะคิดอย่างไร
ครอบครัวนี้นอกจากศาสตราจาร์ยอีไล แล้วยังมี ภรรยาของเขาคือ ซาร่า (Mary Steenburgen) และลูกชาย บาร์คลี่ย์ (Bryan Greenberg) ฝ่ายลูกชายนั้นแม้ว่าจะเรียนเก่งเหมือนกัน เพราะในเรื่องบอกว่าตอนนี้เขากำลังวิทยานิพนธ์ในระดับชั้นปริญญาเอก แต่ทว่าเขาก็เป็นคนที่มีปมในใจตลอดเวลาว่า พ่อไม่รักเขา และเขาเก่งสู้พ่อไม่ได้
เหตุการณ์ในเรื่องมาขมวดปมตอนที่ ขณะที่ทั้งครอบครัวนัดกันขึ้นเครื่องบินไปรับรางวัลโนเบลสาขาเคมีของพ่อที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น นั่นคือ ตัวลูกชายถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ซึ่งทางฝ่ายโจรเรียกเท่ากับมูลค่าของรางวัลโนเบลที่ศาสตราจารย์อีไลกำลังจะเดินทางไปรับพอดี
หนังเรื่องนี้ตัดต่ออย่างน่าสนใจ เรื่องราวก็สนุกสนาน เราไม่สามารถเดาได้เลยว่าตอนต่อไปของเรื่องจะเป็นอย่างไร เนียนจนเราคาดเดาไม่ได้ ว่าจะต้องเจอฉากหักมุมอยู่ข้างหน้า ฉันจะไม่เล่าเรื่องทั้งหมดเพราะเดี๋ยวจะไม่สนุก แต่จะแอบบอกนิดนึงว่า เป็นเรื่องของพ่อแก้แค้นลูก ลูกแก้แค้นพ่อ ครอบครัวแก้แค้นกันเอง ซึ่งฉันว่าเป็นพล๊อตเรื่องที่แปลกดีเหมือนกัน :)
ดูจบก็ทั้งสนุก ทั้งเหนื่อย เหนื่อยใจไปกับเรื่องราวของครอบครัวบ้านนี้ แต่ละคนต่างมีโลกมีแนวคิดของตัวเอง จนไม่ยอมเปิดใจเข้าหากัน ฉันว่าถ้าทุกคนหันมามาคุยกันว่าแต่ละคนมีความคิดอย่างไร ยอมฟังกันบ้าง เรื่องราวคงไม่จบอย่างนี้
--
Nobel Son - Trailer
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น